BCH บวก 4% แย้ม Q2 โตต่อ เปิดปท.หนุนยอดคนไข้ต่างชาติพุ่ง ปักธงปีนี้รายได้ 1.7 หมื่นลบ.
BCH บวก 4% แย้ม Q2/65 โตต่อ เปิดปท.หนุนยอดคนไข้ต่างชาติพุ่ง ปักธงปีนี้รายได้ 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจผู้ป่วยประกันสังคมทะลุ 1 ล้านราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (30 พ.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ณ เวลา 10:53 น. อยู่ที่ระดับ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 4.21% โดยทำจุดสูงสุดที่ 19.90 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 19.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 326.16 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ นายภูมิพัฒน์ ฉัตรนรเศรษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ BCH เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 คาดรายได้รวมจะเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,300 ล้านบาท เนื่องจากฐานผู้ป่วยภาคปกติ ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ฟื้นตัวกลับมาหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเปิดประเทศ แต่ยังคงมีฐานผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับโควิด-19 และรายได้จากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น Moderna เข้ามาเสริม
ทั้งนี้รายได้รวมจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับในไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้รวม 7,100 ล้านบาท เนื่องจากผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อยู่ในช่วงขาลง ถือเป็นตัวเลขที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานในภาวะปกติยังคงมีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง ดังนั้นยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2565 ไว้ที่ 17,000 ล้านบาท หรือเติบโต 104% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 9,000 ล้านบาท ตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมทั้งมุ่งมั่นบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งมั่นใจว่าฐานผู้ป่วยประกันสังคมจะทะลุ 1 ล้านรายจากปัจจุบันที่มีผู้ลงทะเบียนในระบบแล้ว 9.8 แสนราย
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา เครือโรงพยาบาล BCH มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมทั้งเห็นการฟื้นตัวของผู้ป่วยภาคปกติ และชาวต่างชาติอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันได้มีการเปิดศูนย์บริการทางการแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพไปแล้ว 8 แห่ง เพื่อรองรับกลุ่มผู้ป่วยปกติทั่วไป หรือผู้ป่วยหลังการติดเชื้อโควิด-19 คาดว่าในปี 2565 จะสร้างรายได้มากถึง 700-800 ล้านบาท พร้อมทั้งได้เปิดศูนย์การตรวจวิเคราะห์บริการทางการแพทย์ เพื่อลดขั้นตอนการส่งต่อตรวจวิเคราะห์ไปยังนอกเครือโรงพยาบาล คาดว่าจะช่วยลดต้นทุน หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากถึง 30%
นอกจากนี้บริษัทได้ดำเนินการเปิดศูนย์ผ่าตัดหัวใจ 6 แห่ง โดยเชื่อว่าจะสามารถรองรับในกลุ่มฐานผู้ป่วยประกันสังคม และบริษัทประกันพันธมิตร หรือผู้ป่วยส่งต่อได้มากขึ้น พร้อมทั้งเตรียมเปิดให้บริการที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ สปป.ลาว เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ด้วย นอกจากนี้ยังได้เปิดศูนย์นวัตกรรมแผลเบาหวาน และโรคที่เกี่ยวเนื่องที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง เพื่อรองรับผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง โดยเฉพาะชาวอาหรับ และชาวไทย หลังจากการเปิดประเทศ ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารักษาแล้ว และรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 30 เตียง คาดว่าจะสร้างรายได้เฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อเดือน
ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น Moderna คาดว่าจะสามารถบริการให้มากขึ้นต่อเนื่อง หลังจากการเปิดภาคเรียน และการกลับมาทำงานเป็นปกติ ซึ่งจะทำให้กลุ่มนักศึกษา นักเรียน และวัยทำงาน เร่งรับวัคซีนมากขึ้น รวมไปถึงการเร่งรับบริการภาคประชาชนทั่วไป เพราะวัคซีนล็อตแรกจะหมดอายุภายในเดือน มิ.ย.นี้ ด้านการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 คือโรงพยาบาล BCH ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเตียงรองรับในเครือโรงพยาบาล 1,200 เตียง Hospitel มากถึง 19,300 เตียง โรงพยาบาลสนาม 900 เตียง และดูแลผู้ป่วย home isolation กว่า 20,000 รายต่อวัน