เจาะหุ้นกลุ่ม SET50 ”เด่น-ดิ่ง” รอบ 5 เดือน! สูง PTTEP ราคาพุ่ง 44%

เปิดโผ 26 หุ้นกลุ่ม SET50 วิ่งแรงรอบ 5 เดือน! ดาวเด่น PTTEP ราคาพุ่งสูงสุด 44% โบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 179 บาท ภาพรวมไตรมาส 2/65 คาดว่ากำไรสุทธิจะโตแกร่ง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ย้อนดูความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่ม SET50 ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 50 บริษัท ผลปรากฏว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจำนวน 26 บริษัท ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลงจำนวน 24 บริษัท

ขณะที่ภาพรวมของดัชนี SET50 ช่วง 5 เดือนแรกปรับตัวขึ้น 11.49 จุด หรือขึ้นไป 1.16% โดยคำนวณจาก ณ สิ้นปี 2564 ( 30 ธ.ค. 64) ดัชนีปิดที่ระดับ 990.75 จุด จนกระทั้งมาถึงวันที่ 31 พ.ค. 2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,002.24 จุด ซึ่งอิงไปในทิศทางเดียวของรายตัวจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากกว่าราคาปรับตัวลงเล็กน้อย

สมมติฐานได้ว่าหุ้นกลุ่ม SET50 ยังช่วยประครองให้ดัชนี SET Index ในช่วง 5 เดือนแรกปรับตัวขึ้น  5.79 จุด หรือขึ้นไป 0.35% โดยคำนวณจาก ณ สิ้นปี 2564 (30 ธ.ค. 64) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,657.62 จุด จนกระทั้งมาถึงวันที่ 31 พ.ค. 2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,663.41 จุด

โดยตัวแปลสำคัญคงหนีไม่พ้นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ (ฝรั่ง) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 5 เดือนแรก (1 ม.ค. 65 – 31 พ.ค.65) ซื้อสุทธิจำนวน 142,016.85 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจำนวน 26 บริษัท ได้แก่ PTTEP, BH, MINT, CRC, TOP, BANPU, KTB, AOT, IVL, CPN, CPALL, BDMS, AWC, BEM, BBL, GULF, GLOBAL, KBANK, KTC, OR, HMPRO, EGCO, CPF, LH, OSP และ PTT

ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลงจำนวน 24 บริษัท  ได้แก่ SCC, TISCO, BTS, ADVANC, DTAC, EA, RATCH, CBG, TRUE, TIDLOR, IRPC, SAWAD, INTUCH, SCB, TU, TTB, BGRIM, MTC, PTTGC, SPSC, GPSC, KCE, STGT และ COM7

อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปเจาะ 50 บริษัท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนแรก คือ PTTEP โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 169.50 บาท ขณะที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 118.50 บาท พบว่าราคาปรับตัวขึ้น 51.50 บาท หรือขึ้นไป 43.64%

รองลงมา BH โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 174.50 บาท ขณะที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 141.00 บาท พบว่าราคาปรับตัวขึ้น 33.50 บาท หรือขึ้นไป 23.76% ตามด้วย MINT  โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 35.00 บาท ขณะที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 28.75 บาท พบว่าราคาปรับตัวขึ้น 6.25 บาท หรือขึ้นไป 21.74% ขณะที่ตัวอื่นๆดูจากตารางประกอบ

ส่วนทางกลับกันหากดูฝากฝั่งราคาหุ้นที่ปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 5 เดือนแรกกลายเป็น COM7 โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 37.75 บาท ขณะที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 81.75 บาท พบว่าราคาปรับลดลง 44.00 บาท หรือลงไป 53.82% รองลงมา STGT โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 20.10 บาท ขณะที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 30.25 บาท พบว่าราคาปรับลดลง 10.15 บาท หรือลงไป 33.55%

ขณะที่กลุ่ม SET50 ข้างต้นทั้งหมด ยังมีระดับค่า P/E ต่ำไม่เกิน 15 เท่า และค่า P/BV ต่ำไม่เกิน 1 เท่า ซึ่งบ่งบอกว่าราคาหุ้นยังไม่แพง โดยอาจเป็นตัวเลือกสำคัญ อย่างเช่น BANPU เป็นบริษัทที่ระดับค่า P/E ปัจจุบันต่ำสุดเพียง 4.52 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 0.98 เท่า รองลงมา คือ PTTGC มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 5.51 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 0.69 เท่า

นอกจากนี้ยังมี KTB มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 8.52 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 0.58 เท่า, BBL มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 9.36 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 0.50 เท่า, KBANK มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 9.01 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 0.71 เท่า, TTB มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 11.27 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 0.58 เท่า และ EGCO มีระดับค่า P/E อยู่ที่ 12.41 เท่า และค่า P/BV อยู่ที่ 0.79 เท่า เป็นต้น

ท้ายสุดจากผลสำรวจความเคลื่อนไหวราคาหุ้นข้างต้น ตัวปรับตัวสูงสุด PTTEP ซึ่งบล.พาย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 179 บาท จากภาพรวมไตรมาส 2/2565 เป็นบวกเพราะคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ประเมินว่าการเริ่มผลิตก๊าซจากโครงการ G1/61 และ G2/61 (ประเทศไทย) จะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายได้ 10% ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจเข้ามาช่วยกระตุ้นราคาขายเฉลี่ยขึ้น

Back to top button