NOBLE เล็งออกหุ้นกู้ใหม่ ดบ.สูง 4.60% ขายรายย่อย-สถาบัน 13-15 มิ.ย.นี้
NOBLE เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 3 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี ขายนักลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย.65
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท เสนอขายระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2565
โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมิถุนายนจำนวน 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทและหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งเป็นระดับ investment grade หรือเรียกว่าระดับที่ลงทุนได้
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 155% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 ซึ่งยอดขายดังกล่าวถือเป็นการทำสถิติยอดขายสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัท และยังเป็นการเติบโตสูงเกือบเท่ากับยอดขายของปี 2564 ที่ทำได้ 8,035 ล้านบาท ซึ่งยอดขายของไตรมาส 1/2565 มาจากโครงการต่อเนื่องในปี 2564 ประกอบกับไตรมาส 1/2565 มีโครงการที่เปิดใหม่จำนวน 5 โครงการมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประกอบด้วย 1.โครงการ นิว ดิสทริค อาร์9 (Nue District R9), 2.โครงการ นิว เมกา พลัส บางนา (Nue Mega Plus Bangna) 3.โครงการ นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น (Nue Z-Square Suan Luang Station) 4.โครงการ นิว อีโว อารีย์ (Nue Evo Ari) และ 5.โครงการ นิว คอน เน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง (Nue Connex Condo Don Mueang) ซึ่งทุกโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสะท้อนให้เห็นจากยอดขายเฉลี่ย 40%-50% ของทุกโครงการรวมกัน
สำหรับในไตรมาส 2/2565 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8,700 ล้านบาท และในส่วนครึ่งปีหลัง มีแผนจะเปิดตัวอีก 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีได้ตามเป้าที่ตั้งไว้จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 47,700 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโครงการจะกระจายสินค้าให้หลากหลายและคลอบคลุมทุกทิศของกรุงเทพฯ
โดยในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 1,496 ล้านบาท ลดลง 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 1/2565 มาจากบริษัทไม่มีโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมโอนเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/2564 ที่มีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอน สำหรับโครงการที่รับรู้ในไตรมาส 1/2565 มาจาก 4 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.โครงการ โนเบิล บี19 สุขุทวิท 2.โครงการ นิว แจ้งวัฒนะ 3.โครงการ นิว คอนเน็กซ์ เฮ้าส์ ดอนเมือง และ 4.โครงการ โนเบิล เกเบิล วัชรพล ซึ่งทั้ง 4 โครงการเป็นโครงการเดิมที่โอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2565 บริษัทมียอดขายรอโอน หรือ Backlog อยู่ที่ประมาณ 15,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2564 ที่อยู่ในระดับ 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้และ 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจากยอดขายรอโอนในมือของบริษัททำให้บริษัทเชื่อว่าในปี 2565 จะสามารถสร้างรายได้เติบโตมากกว่าปี 2564 อย่างแน่นอน และเชื่อว่าในปี 2566 จะเห็นการเติบโตของรายได้ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ๆ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย