GUNKUL นำทีมวิ่งคึก! นักลงทุนเก็งกำไรรับปลดล็อก “กัญชา” พรุ่งนี้
GUNKUL นำทีมวิ่งคึก! รับปลดล็อกกัญชา 9 มิ.ย.นี้ กลุ่มต้นน้ำ-กลางน้ำ นำโดย GUNKUL, RBF, EE, IP, DOD และกลุ่มปลายน้ำอย่าง NRF กลุ่มใช้สารสกัดจาก CBD และ THC ในอาหารและเครื่องดื่ม ICHI, SAPPE, OSP และ CBG รวมทั้งกลุ่มหุ้นเครื่องสำอาง สกินแคร์ KISS, BEAUTY และ JKN โดดเด่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10:06 น. ราคาหุ้น บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL อยู่ที่ระดับ 6.15 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.24% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 357.63 ล้านบาท
ด้านบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF อยู่ที่ระดับ 16.20 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 16.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39.66 ล้านบาท
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP อยู่ที่ระดับ 20.70 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.48% สูงสุดที่ระดับ 20.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.45 ล้านบาท
บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF อยู่ที่ระดับ 6.80 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.26% สูงสุดที่ระดับ 6.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.99 ล้านบาท
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY อยู่ที่ระดับ 1.46 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.10% สูงสุดที่ระดับ 1.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.44 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.63 ล้านบาท
บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD อยู่ที่ระดับ 7.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 7.69% สูงสุดที่ระดับ 7.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.30 ล้านบาท
บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE อยู่ที่ระดับ 0.89 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.14% สูงสุดที่ระดับ 0.89 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.88 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 ล้านบาท
บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE อยู่ที่ระดับ 34.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.73% สูงสุดที่ระดับ 34.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.31 ล้านบาท
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG อยู่ที่ระดับ 107.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.47% สูงสุดที่ระดับ 107.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 107.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44.59 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นในกลุ่มกัญชง-กัญชา ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้หลังมีการรายงานข่าวว่า ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พืชกัญชาและกัญชงจะไม่ถือว่าเป็นยาเสพติดอีกต่อไป หากมีสาร THC ไม่เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก หลังจากออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 แล้ว โดยปัจจุบันกัญชากว่า 65% เป็นการซื้อขายเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนอีก 35% เป็นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยาสมุนไพรและเครื่องสำอาง
ขณะที่ หลายบริษัทที่มีใบอนุญาตในการสกัดช่อดอกกัญชงเป็นสารสกัด หรือ CBD และสารสกัดที่พบมากในกัญชาอย่าง THC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลางน้ำ จะสามารถเซ็นสัญญาขายสารสกัดให้แก่ผู้ประกอบการปลายน้ำ หลังจากที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขมีผลบังคับใช้แล้ว ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มปลายน้ำที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาตามแผนที่วางไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับหุ้นที่คาดว่าได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากประกาศดังกล่าว ที่ “นสพ.ข่าวหุ้นธุรกิจ” รวบรวม มีทั้งหมด 16 หุ้น ได้แก่ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL, บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS, บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC, บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP, บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE, บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF
รวมถึง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP, บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG, บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS, บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY และ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกัญชา ได้แก่ GUNKUL, KWM, RS, BC, IP, DOD และ RBF
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า การประกาศปลดล็อกพืชกัญชาในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะส่งผลทางด้านจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์กัญชา ที่คาดว่าจะมีการเข้ามาเก็งกำไรในระยะสั้น แต่ในระยะยาวคงต้องขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของแต่ละบริษัทในการผลิตฯ
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศเป็นที่น่าสนใจมากกว่า เนื่องจากมีขนาดตลาดที่ใหญ่ ใช้วัตถุดิบมาก ส่วนการขายในประเทศยังอยู่ในวงจำกัด ซึ่งจะเห็นการเปิดตัวสินค้ามากขึ้นหลังจากนี้ โดยแนะนำ 4 หุ้น ได้แก่ ICHI, SAPPE, GUNKUL และ RBF โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำเกี่ยวกับออร์แกนิก อย่าง GUNKUL เป็นหุ้นที่น่าจับตา ตามแนวโน้มความต้องการของตลาดฯ
โดยกลุ่มต้นน้ำ RBF และ GUNKUL กลุ่มการสกัด RBF และ KWM และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ OSP, ICHI และ SAPPE โดยกลยุทธ์การลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไร รวมถึงถือเพื่อรับผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาวได้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS คาดว่า จะมีกระแสตอบรับจากประเด็นดังกล่าวในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ขณะที่ GUNKUL มีความคืบหน้าค่อนข้างมากในการทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับพืชกัญชา
สำหรับหุ้นกลุ่มดังกล่าว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่ตั้งโรงงานเพื่อผลิตสกัดสาร CBD เชิงพาณิชย์ ได้แก่ DOD และ RBF 2.กลุ่มที่ใช้สาร CBD และ THC ในอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ICHI, SAPPE และ CBG และ 3.กลุ่มหุ้นเครื่องสำอาง สกินแคร์ และอาหารเสริม ได้แก่ KISS, BEAUTY และ JKN ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ DOD
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มุมมองการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชา ฝ่ายวิจัยชื่นชอบธุรกิจกลางน้ำมากที่สุด เพราะมองว่าการสกัดสาร CBD จะสร้างมูลค่าให้กับบริษัทจากความต้องการที่ค่อนข้างสูง รวมถึงธุรกิจกลางน้ำมีความเสี่ยงน้อยกว่าธุรกิจต้นน้ำ และมีการแข่งขันต่ำกว่าธุรกิจปลายน้ำ
โดยหุ้นเด่นที่แนะนำลงทุน ได้แก่ RBF ราคาเหมาะสม 23 บาทต่อหุ้น และ DOD 17 บาทต่อหุ้น จากที่ทั้ง 2 บริษัทมีโรงสกัดแล้ว และอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต รวมถึง SAPPE 36 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้มองว่าทั้ง 3 บริษัทสามารถถือลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาวได้
ด้านนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีสารสกัดจากใบกัญชงและสารสกัด CBD ที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักและใส่ใจสุขภาพออกสู่ตลาดต่อเนื่อง เพราะสารสกัดจาก CBD เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลายมากทั่วโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาและยุโรป นับว่าเป็นกระแสใหม่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ประชากรทั่วโลกมีภาวะเครียด วิตกกังวล และนอนไม่หลับมากขึ้น จึงหันมาบริโภคเครื่องดื่มผสมสารสกัด CBD เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี หรือ EE เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (ปี 2565-2567) ของบริษัทสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
โดยธุรกิจต้นน้ำนั้น ล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อบริษัท ซีบีดี ไบโอไซเอนซ์ จำกัด (CBDB) มูลค่า 650 ล้านบาท โดยมีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองยวง จังหวัดลำพูน เนื้อที่รวม 28ไร่ 95 ตารางวา มีโรงเรือนปลูกพืชกัญชงมากถึง 60 โรงเรือน พื้นที่เพาะปลูกรวมประมาณ 9,600 ตารางเมตร จำนวน 24,000 ต้น คาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวและรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไป