ท่องเที่ยวสัญญาณดี! ธปท. เผยผู้ประกอบการแห่ออกจากโครงการ “พักทรัพย์พักหนี้”

ธปท. เปิดเผย ธุรกิจท่องเที่ยว แห่ขอออกจากโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ทั้งรายที่เข้ามาแล้ว -รายใหม่ หลังเปิดประเทศ ดันยอดเข้าพักพุ่ง สัญญาณดีเศรษฐกิจไทย


นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า จากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศของรัฐบาล เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดี โดยมีอัตราการจองห้องพักบางแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่พักในเขตหัวเมืองใหญ่ และเป็นเมืองท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมขอออกจากโครงการพักทรัพย์พักหนี้ หรือ แอสเซท แวร์เฮ้าส์ซิ่งแล้วหลายราย ทั้งรายที่ได้รับอนุมัติเข้าโครงการเรียบร้อยแล้ว และที่รายอยู่ระหว่างการยื่นเข้าโครงการ

โดยปัจจุบัน ธปท.เห็นว่าผู้ที่ขอออกจากโครงการพักทรัพย์พักหนี้เยอะขึ้น มีทั้งที่เข้าโครงการเรียบร้อยแล้ว และที่อยู่ระหว่างการยื่นขอเข้าโครงการ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวในเขตหัวเมืองใหญ่หรือเขตท่องเที่ยว หลายราย และปัจจุบันพบว่าคนเข้าโครงการน้อยลง หากเทียบกับช่วงที่ธุรกิจได้รับผลกระทบโควิด-19 ใหม่ๆ แต่ก็มีบางรายที่ยื่นความประสงค์ขอเข้าโครงการเช่นกัน จากต้นทุน ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันที่สูงขึ้น

นางสาวสุวรรณี ยังระบุว่า ด้วยกลไกของมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ที่ ธปท.ได้ออกมา ถือว่าออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น โดยสร้างกลไกให้เอื้อสำหรับลูกหนี้ มีสิทธิในการเช่าต่อและมีสิทธิในการซื้อคืนเป็นคนแรกได้ และหากลูกหนี้เปลี่ยนใจยกเลิกในการเข้าโครงการก็สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีอื่นๆได้ จากสถาบันการเงิน เช่น การขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับการชำระเงิน ลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเข้าไปช่วยแก้หนี้ให้กับลูกหนี้

สำหรับความคืบหน้าโครงการพักทรัพย์พักหนี้ของ ธปท. ณ 23 พฤษภาคม 2565 มีมูลค่าสินทรัพย์ที่รับโอนแล้ว 46,916 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 346 ราย โดยวงเงินในโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ปัจจุบันเหลืออยู่เกือบ 5.5 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน 1 แสนล้านบาท บวกกับมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูที่มีวงเงินเหลืออีกกว่า 8 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดที่ 2.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ธปท.เชื่อว่า จะยังมีวงเงินเพียงพอ ในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อให้กับลูกหนี้ได้ในระยะข้างหน้า

Back to top button