จับตา 5 หุ้น ตีปีกรอข่าวดี ยกเลิก Thailand Pass 1 ก.ค.นี้

จับตา 5 หุ้น ตีปีกรอข่าวดี ยกเลิก Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มีผล 1 ก.ค.นี้ คาดกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้นอีกมาก


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมอง Overweight กลุ่มท่องเที่ยว (Tourism) จากที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอ ศบค. ยกเลิก Thailand Pass นักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มีผล 1 ก.ค. โดยระบุ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯเตรียมเสนอ ต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 17 มิ.ย.นี้ พิจารณายกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มีผลวันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป หลังยกเลิกแก่คนไทยไปแล้ว เมื่อ 1 มิ.ย. แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องลงทะเบียนในระบบไทยแลนด์พาสอยู่ เพื่อแจ้งข้อมูลหนังสือเดินทาง ประวัติการ ฉีดวัคซีน และการทำประกันสุขภาพ

โดยทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว หากมีการยกเลิก Thailand pass ได้จริงในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการปลดล็อกมาตรการการผ่อนคลายท่องเที่ยวได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะปัจจุบันมีขั้นตอนและระยะเวลารอคอยในการอนุมัติจากทางการไทยในการเข้าประเทศไทยค่อนข้างนานราว 5-7 วัน โดยทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะเป็น upside เพิ่มต่อประมาณการนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6 ล้านคน จากปีก่อนที่ 4.3 แสนคน ซึ่ง 4 เดือนแรก ปี 2565 อยู่ที่ 8 แสนคน

นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่า หลังจากนี้จะมีการเร่งประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะยิ่งเป็นตัวช่วยปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่จะได้รับผลบวกจากข่าวดังกล่าวจากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ทางฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” โดยแนะนำ “ซื้อ” ERW กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 3.90 บาท และ CENTEL แนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 50 บาท ซึ่งจะได้ Sentiment เชิงบวกมากสุด นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยยังชอบ MINT โดยแนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 44 บาท เพราะคาดไตรมาส 2 – ไตรมาส 4 ปีนี้จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาสและจะโตเด่นเหนือกลุ่ม ขณะเดียวกันยังชอบ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 76 บาท ซึ่งได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

Back to top button