VGI ยอดโฆษณาฟื้น

การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ VGI ซึ่งทำธุรกิจสื่อโฆษณาครบวงจร กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง


คุณค่าบริษัท

การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ซึ่งทำธุรกิจสื่อโฆษณาครบวงจร กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง หลังจากผลประกอบการงวดปี 2564/2565 (เม.ย. 2564-มี.ค. 2565) พลาดท่าพลิกมาขาดทุน 120 ล้านบาท จากงวดปี 2563/2564 (เม.ย. 2563-มี.ค. 2564) ที่มีกำไรกว่า 979 ล้านบาท

โดยเฉพาะการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้าน ซึ่งเป็นรายได้หลักของ VGI คาดจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับ 80% ของช่วงก่อนโควิด เนื่องจากการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 500,000 คนต่อวัน จากเดิมประมาณ 230,000 คนต่อวัน และมีอัตราการใช้พื้นที่อยู่ที่ 50-55%

ส่วนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล คาดจะดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายประกันภัยภายใต้บริษัท แรบบิท แคร์ จํากัด และการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริการสินเชื่อดิจิทัลภายใต้บริษัท แรบบิท แคช จํากัด เป็นปีแรก

นอกจากนี้ จะมีการรับรู้ผลการดำเนินงานของบริษัท แฟนสลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จํากัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการด้านอี-คอมเมิร์ซในรูปแบบ Omni-Channel และผู้นำด้านการบริหารจัดการสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำจากประเทศจีน พร้อมทั้งขยายการกระจายสินค้าสู่ร้านค้าในรูปแบบออฟไลน์ เข้ามาแบบเต็มปีอีกด้วย

ขณะที่ การเข้าไปลงทุนในบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART จะทำให้ VGI สามารถหาโอกาสในการสร้าง synergy ธุรกิจร่วมกัน และยังสามารถขยายเครือข่ายการกระจายสินค้าของแฟนสลิ้งค์ผ่านเครือข่ายของเจ มาร์ท และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ได้ด้วย

รวมทั้งการเข้าไปลงทุนในบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE ซึ่งเป็นผู้ได้สิทธิในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์บนเครือข่ายรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็จะทำให้ VGI สามารถใช้ประโยชน์จากการตลาดร่วมกันได้

ขณะที่ ผู้บริหารมั่นใจผลประกอบการงวดปี 2565/2566 (เม.ย. 2565-มี.ค. 2566) จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 6,500-7,000 ล้านบาท และจะมี EBITDA Margin ที่ 20%

ด้านบล.เคทีบีเอสที คาดกำไรสุทธิงวดปี 2565/2566 อยู่ที่ 625 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 120 ล้านบาท ในงวดปี 2563/2564 จาก 1) รายได้ที่ฟื้นตัวในทุกธุรกิจโดยเฉพาะรายได้ OOH media ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังโควิดคลี่คลาย และรับรู้รายได้จากแฟนสลิ้งค์ 2) อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวจาก utilization rate ที่ดีขึ้น และ 3) equity income ฟื้นตัว จาก KEX ที่ฟื้นตัวและรับรู้ส่วนแบ่ง JMART เต็มปี

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2,554,351,500 หุ้น 29.66%
  2. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 1,890,003,340 หุ้น 21.95%
  3. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 719,974,432 หุ้น 8.36%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 366,575,702 หุ้น 4.26%
  5. UBS AG SINGAPORE BRANCH 277,846,200 หุ้น 3.23%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ
  2. นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. นายมารุต อรรถไกวัลวที รองประธานกรรมการ
  4. นายแล็พ ซน เนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
  5. นายชิ เคือง คง กรรมการ
  6. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ
  7. นายชาน คิน ตัค กรรมการ
  8. นางจารุพร ไวยนันท์ กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  9. นายเกียรติ ศรีจอมขวัญ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  10. นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button