ตู่แก้มปริ! “ฟิทช์ฯ” คงความน่าเชื่อถือไทย BBB+ รับเศรษฐกิจฟื้นตัว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลปลื้ม Fitch Ratings ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) คาดการณ์เศรษฐกิจขยาย 4.5% จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ฟิทช์ (Fitch) ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือ (Sovereign Credit Rating) ของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลว่า มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
สำหรับจากการคาดการณ์ของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าผลประกอบการของบริษัทในไทยจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 นำไปสู่การประกาศผลการจัดอับดับความน่าเชื่อถือที่มีการประกาศเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ซึ่ง Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่มีเสถียรภาพระดับ BBB+ ซึ่งสะท้อนผลการบริหารจัดการด้านการคลังอย่างมีประสิทธิภาพของรัฐบาล ที่มีการออกมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมาตรการเปิดประเทศที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว เกิดทิศทางเชิงบวกในภาคเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนยิ่งขึ้น
โดย Fitch คาดการณ์ว่า ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ในปี 2565 ประเทศไทยจะขาดดุลงบประมาณลดลง สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาล (General Government Debt) ต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 55.4 ต่อ GDP เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.5 จากการฟื้นตัวภายในประเทศและการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคนในปี 2565 เป็น 22 ล้านคนในปี 2566
ส่วนของภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ประเทศไทยยังแข็งแกร่ง มีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงและเพียงพอต่อการใช้จ่าย ทั้งนี้ Fitch คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยจะขาดดุลร้อยละ 1.8 ต่อ GDP ลดลงจากร้อยละ 2.1 ต่อ GDP ในปี 2564 และจะกลับมาเกินดุลที่ร้อยละ 1.0 ต่อ GDP ในปี 2566 และร้อยละ 2.8 ต่อ GDP ในปี 2567 จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้จากผลการจัดอับดับของ Fitch ทำให้นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันการพัฒนาในทุกมิติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน มุ่งหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมไทยให้พร้อมต่อการเปิดประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน