ฝรั่งยังไม่กลับ
“โมนิก้า” มองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นเพียงการเด้งกลับระยะสั้น ลักษณะเทคนิเคิลรีบาวด์เท่านั้นช่วงรอสถานการณ์ใหม่หนุน
*หากเม้าท์มอยถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเด้งกลับบวกปิดที่ระดับ 1,568.76 จุด บวกไป 11.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.59 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี “โมนิก้า” มองเป็นเพียงการเด้งกลับระยะสั้น ลักษณะเทคนิเคิลรีบาวด์เท่านั้นช่วงรอสถานการณ์ใหม่หนุน และย้ำว่าทำไปทำมายังชะล่าใจไม่ได้มีแรงเทขายจากฝรั่งตาน้ำข้าวออกมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดขายสุทธิร่วมเดือน มิ.ย. จำนวน 3.26 หมื่นล้านบาท สร้างความอึดอัดใจให้กับผู้เล่นอย่างมากเจ้าค่ะ
*วันนี้ “โมนิก้า” ยังยืนยันคำเดิม แนวคิดเดิม ๆ ว่าวันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเกิดขึ้น เพราะการเด้งขึ้นของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นในคราวนี้ มันเป็นผลมาจากวันก่อน ๆ หุ้นไทยลงลึกเกินไป จึงมีแรงซื้อกลับมาช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แฟนคลับได้พบเห็นเป็นประจำไม่ต้องตื่นเต้น และวันนี้ก็คงได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงไม่ต้องถามถึงตัวแปรอื่น ๆ ให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะแค่มองจากพฤติกรรมการเล่นที่เห็นกันเป็นประจำ ก็รู้ได้ทันทีว่า ยังมีอะไรให้ลุ้นระทึกเยอะพอสมควร บวกกับข้อมูลบางอย่างที่ยังแทงกั๊กอยู่ร่ำไป “โมนิก้า” ถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรรับรู้กันอย่างทั่วถึง เพื่อจะได้มองปลายทางว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง? เพราะที่ผ่านมา “ความเชื่อ” กับ “ความจริง” เดินสวนทางกันเป็นประจำจ๊ะ
*เหมือนกับในรายของ SCC เกิดการไล่ราคารอบใหม่คึกคัก จนวิ่งขึ้นไปปิดที่ 379 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.27 พันล้านบาท สะท้อนเมื่อนักวิเคราะห์ ชูเป็นหุ้นเด่นสินค้าโภคภัณฑ์ อุปสงค์ซีเมนต์เติบโตดีจากโครงการภาครัฐ บวกกับต้นทุนลดจากน้ำมันปรับลง อีกทั้ง “โมนิก้า” เหลือบเห็นว่าค่า P/E เพียง 11 เท่า แถมมัดใจยีลด์ดี 4% ต่อปี ผนวกแรงกระตุ้นคือนำ SCGC เข้าตลาดฯ หวังว่าราคาทดสอบเป้า 464 บาทไม่ไกลเกินเอื้อมจ้าอิอิ
*เช่นเดียวกับส่วนของ BDMS อาศัยบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นเป็นแรงผลัก หุ้นถึงทะยานขึ้นมาปิดที่ 24.90 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 0.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท “โมนิก้า” ยังปักหัวหมุดว่าขานรับการเปิดเมืองเปิดประเทศหนุนคนไข้เข้ามารักษามากขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สำคัญนักวิเคราะห์โดยตั้งแต่ไตรมาส 2-4 คาดกำไรปกติแกร่ง ชี้ทั้งปี 65 คาดกำไรปกติสู่ 1.06 หมื่นล้านบาท สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด เดี๊ยนส่งสัญญาณแล้วนะเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงหุ้นน่าเล่นอีกราย “โมนิก้า” ต้องยกให้หุ้น TTCL กันสักหน่อย เพราะราคาพุ่งขึ้นมาปิดที่ 4.94 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 3.78% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 114 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ราคาย่ำฐานแถว ๆ 4 บาทมาสักพัก ทะยานรอบนี้จึงกลายเป็นจังหวะให้ขาลุยใส่เกียร์เดินหน้าตามไม่ยั้ง ลุ้นสถานีถัดไป 5.10 บาท หลังไปคว้างานก่อสร้างใหญ่ 4.5 พันล้านบาท เข้ามาเติมแบ็กล็อกเพียบ ดันผลงานปีนี้มีลุ้นกำไรกว่า 500 ล้านบาท ส่งซิกปีหน้าโตต่อพะเจ้าค่ะ
*ส่วนรายของ SAPPE ทรงกำลังมาดี อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน สิ่งสำคัญได้ปรับกลยุทธ์แผนธุรกิจ ตีตลาดต่างประเทศกระจาย ดันยอดขายจุก ๆ ดังสุภาษิต “น้ำขึ้น ให้รีบตัก” เล่นเอาซะนักลงทุนตาวาวเข้ามาไล่เก็งกำไร ทำราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 36.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.82% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาท “โมนิก้า” มองแล้วช่องทางขายขยายกว้าง ชื่อเสียงบรรลือขายน้ำโด่งดัง ครอบคลุมผู้บริโภคทุกวัย เชื่อว่าผลงานไตรมาส 2 วิบวับ ๆ เจ้าค่ะ
*ตบท้ายในรายของหุ้น SABUY เริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้งจากที่ก่อนหน้าเซื่องซึม ล่าสุดประกาศร่วมทุนอีก 3 พันธมิตรใหม่เพื่อเติมเต็มธุรกิจ “อีโคซิสเต็ม” ทำเอาราคาหุ้นวิ่งตอบรับกันยกใหญ่ ก่อนมาปิดที่ระดับ 20.40 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 10.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท จากความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าในปี 66 อาจเห็นรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท งานนี้เดี๊ยนยังมองว่าจังหวะดีในการเข้าลงทุนจ่อดูระยะยาวนะคะ