ดอลล์ปรับลงจากแรงขายทำกำไรหลังพุ่งแรง

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งขานรับข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0757 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0747 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5043 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.10 เยน จาก 123.21 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0037 ฟรังก์ จาก 1.0062 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7046 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7042 ดอลลาร์

ดอลลาร์ปรับฐานลงหลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ขานรับข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.1% ในเดือนก.ย. ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 5.0%

ทั้งนี้ ดอลลาร์ชะลอแรงบวก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายราย ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายมีกำหนดจะแสดงความคิดเห็นในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก โดยนักลงทุนจำนวนมากคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสหรัฐจะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในวันศุกร์นี้

Back to top button