J ไม่หวั่นภาวะตลาด เปิดเทรดวันแรกพุ่งกว่า 76%
J ไม่หวั่นภาวะตลาด เปิดเทรดวันแรกพุ่งกว่า 76% โดย ณ เวลา 10.03 น. ราคาอยู่ที่ 4.88 บ. บวก 2.11 บ. หรือ 76.17% สูงสุดที่ 5.15 บ. ต่ำสุดที่ 4.82 บ. จากราคา IPO ที่ 2.77 บ. มูลค่าซื้อขายที่ 461.53 ลบ.
บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเทรดวันแรก ณ เวลา 10.03น. ราคาอยู่ที่ 4.88 บาท บวก 2.11 บาท หรือ 76.17% สูงสุดที่ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ 4.82 บาท จากราคา IPO ที่ 2.77 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 461.53 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.48%
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” J เห็นว่ากำไรหลักไตรมาส 2 ปี 58 ที่เพิ่งประกาศออกมาลดลง 19% จากปีก่อนเป็น 16 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกของปี 58 มีกำไรหลักเป็น 38 ล้านบาท เพิ่ม 7% จากปีก่อน คาดการณ์รายได้ปีนี้และปีหน้าเพิ่ม 19%/10% จากปีก่อนตามลำดับสำหรับกำไรสุทธิเพิ่ม 11%/10% จากปีก่อนตามลำดับ
ทั้งนี้ P/E ปี 59 จากราคาจองเป็น 15.3 เท่า ถือว่าไม่ถูก หากพิจารณา P/E ปัจจุบันของ SF และ CPN เป็น 12.9 และ 26.3 เท่าตามลำดับ หากกำหนดให้ P/E เหมาะสมสำหรับ J ปี 59 เป็น 16-17 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 2.89-3.07 บาท สูงกว่าราคาจอง 4%-11% ตามลำดับ
โดยปัจจัยบวกคือ มีรายได้เป็นค่าเช่าที่ไม่ผันผวนมาก มีบริษัทแม่คือ JMART คอยสนับสนุน แต่ปัจจัยเสี่ยงคือ การแข่งขันที่สูง เพราะปัจจุบันห้างสรรพสินค้าทุกแห่งต่างมีพื้นที่สำหรับจำหนายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี่ แบรนด์บริษัทอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ถึงกับได้รับความนิยมสูง
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบให้มากกว่า 100 สาขาภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มีสาขารวมอยู่ที่ 49 สาขา มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50%
อนึ่ง J ประกอบธุรกิจหลักบริษัทแบ่งได้ 3 ประเภทคือ 1) บริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี่ ภายใต้ชื่อ “IT Junction” 2) พัฒนาและบริหารพื้นที่ตลาดชุมชน ภายใต้ชื่อ “J Market” 3) พัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ “The Jas”โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ