TOP ยังไม่ฟื้น! ไตรมาส 3/58 ขาดทุนเพิ่มเป็น 2,294.29 ลบ.

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และรวมของบริษัทย่อยแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ขาดทุนเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,294.29 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 1.12 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2,234.16 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 1.10 บาท ส่วนงวด 9 เดือน 2558 มีกำไรสุทธิ 8,432.28 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.13 บาท หรือเพิ่มขึ้น 265.96% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร    2,304.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.13 บาท

สำหรับผลการดาเนินงานไตรมาส 3/58 เทียบกับไตรมาส 3/57 เครือไทยออยล์มีรายได้จากการขายลดลง 13,533 ล้านบาท สาเหตุหลักจากระดับราคาน้ามันและราคาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ปรับลดลงอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มในไตรมาส 3/58 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เนื่องจากในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกรกฎาคมของปีที่ผ่านมา เครือไทยออยล์หยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนของหน่วยกลั่นน้ามันดิบหน่วยที่ 3 (Crude Distillation Unit – 3: CDU-3) หน่วยเพิ่มออกเทนด้วยสารเร่งปฏิกิริยาหน่วยที่ 1 (Continuous Catalyst Regeneration Platformer Unit – 1: CCR-1) และหน่วยย่อยอื่นๆ รวมถึงหน่วยผลิตสารอะโรเมติกส์

โดยนำไตรมาส 3/58 เครือไทยออยล์มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน และยางมะตอยที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนพลังงานที่ลดลงท่ามกลางภาวะการณ์ราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงอย่างมากในปีนี้

ทั้งนี้ เครือไทยออยล์มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันที่มากขึ้น 1,017 ล้านบาท และมีกำไรจากอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันสุทธิลดลง 148 ล้านบาท ทำให้เครือไทยออยล์มี EBITDA เพิ่มขึ้น 3,476 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีในไตรมาส 3/58 เครือไทยออยล์ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 3,129 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงถึง 4.01 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ จาก ณ สิ้นไตรมาส 3/57 ทำให้เกิดผลขาดทุนทางบัญชีจากการแปลงค่าของหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหลังหักต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว เครือไทยออยล์มีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน