JAS ปันผลพิเศษ.!?
การขายสินทรัพย์ครั้งนี้ คงทำให้หุ้น JAS หมดเสน่ห์ไปเยอะ สะท้อนได้จากราคาหุ้นช่วง 3 วันทำการหลังประกาศขายสินทรัพย์ ลดลงเกือบ 30%...
ดีลการขายสินทรัพย์แบบยกเข่ง ทั้งบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จํากัด (มหาชน) หรือ TTTBB หรือที่รู้จักในชื่อ 3BB และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF มูลค่ารวม 3.24 ล้านบาท ของบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS…
แหม๊…มันช่างประจวบเหมาะกับระยะเวลาเกือบ 6 ปี ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS อย่าง “พิชญ์ โพธารามิก” เคยกู้เงินแบงก์สีม่วง ธนาคารไทยพาณิชย์ วงเงิน 4.25 หมื่นล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนเมื่อปี 2559 โดยตอนนั้นใช้เงินไปราว 2 หมื่นล้านบาทพอดิบพอดี…
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ความจำเป็นในการขายสินทรัพย์ครั้งนี้ของ JAS น่าจะสืบเนื่องมาจากความจำเป็นของ “พิชญ์” ที่มีภาระต้องจ่ายหนี้คืนให้กับแบงก์ไทยพาณิชย์หรือเปล่า..?
เพราะพอหักโน่นนี่นั่นออกไปแล้ว…JAS ยังเหลือเงินราว 2 หมื่นล้านบาทเชียวนะ..!!
ดังนั้น ด้วยความจำเป็นของ “พิชญ์” ก็เป็นโอกาสของ JAS ในการจ่ายปันผลพิเศษหรือเปล่า..? ส่วนจะจ่ายเท่าไหร่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง…
ถ้ายังจำกันได้ ตอนที่ JAS ขายสินทรัพย์เข้ากองทุน JASIF ก็ตามมาด้วยการปันผลพิเศษนะ และมีการปันผลต่อเนื่องมาทุกปี จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของหุ้น JAS ไปซะแล้ว…
อ้อ…เพิ่งจะมีแค่ 2 ปีให้หลังมานี้ ที่ JAS ประกาศงดจ่ายปันผล ทำเอาผู้ถือหุ้นต้องร้องเพลง…อารมณ์เสีย…อารมณ์เสีย…อารมณ์เสีย มันน่าโมโหจริง ๆ เชียว…
มารอบนี้เหลือเงินก้อนใหญ่ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ JAS จะไม่จ่ายปันผลพิเศษ..!? ว่าป๊ะล่ะ
ขณะที่ บล.กสิกรไทย ประเมินว่า กรณีดีสุด JAS อาจจ่ายปันผลที่ 2.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 72.1% ส่วนกรณีเลวร้ายสุด JAS อาจนำเงินราว 1 หมื่นล้านบาท ไปลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS…
แหม๊…นี่ถ้า JAS ปันผลพิเศษในอัตรา 2.25 บาท ตามที่บล.กสิกรไทย ประเมินจริง…เท่ากับว่า “พิชญ์” จะมีเงินก้อนโตราว 1.03 หมื่นล้านบาท ไปจ่ายหนี้แบงก์เลยนะ…
แล้วไม่แน่ หลังจากรับเงินปันผล…เคลียร์หนี้สินจบแล้ว อาจตามมาด้วยการถอยกรูดของ “พิชญ์” หรือเปล่า..? อันนี้ก็น่าคิด..
แต่..ต้องลุ้นด่านแรก 23 ก.ย.นี้ก่อน ผู้ถือหุ้นจะไฟเขียวขาย 3BB และ JASIF ไหม..!??
อีกจุดที่น่าสนใจ หลังจากขายสินทรัพย์ไปแล้ว JAS ก็คงหวังพึ่งพาแค่ JTS ซึ่งเห็นว่านอกจากมุ่งเน้นสายขุด (เหมืองขุดบิตคอยน์) แล้ว ยังจะรุกไปสู่ธุรกิจโซลาร์, คลาวด์, เทคโนโลยี AI รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ว่ากันไป…ส่วนจะพึ่งพาได้มากน้อยแค่ไหน…อันนี้มิอาจทราบได้
แต่อย่าลืมว่า JAS ถือหุ้น JTS สัดส่วนแค่ 32.80% เท่านั้น ฉะนั้นจะรับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่านั้น ไม่ได้คอนโทรลงบเข้ามาเหมือนกรณี 3BB และ JASIF นะ…แล้วที่สำคัญ ถ้าดูจากสถานการณ์บิตคอยน์ที่อยู่ในช่วงขาลง ชักน่าเป็นห่วงแล้วสิ…
แต่ที่รู้ ๆ การขายสินทรัพย์ครั้งนี้ คงทำให้หุ้น JAS หมดเสน่ห์ไปเยอะเลย…
สะท้อนได้จากราคาหุ้นช่วง 3 วันทำการหลังประกาศขายสินทรัพย์ ปรับลดลงไปแล้วเกือบ 30%…
บ่งบอกว่า ดีลนี้นักลงทุนไม่ปลื้มอะนะ..!?
…อิ อิ อิ…