สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.ค. 2565

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์ (8 ก.ค.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,338.15 จุด ลดลง 46.40 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,899.38 จุด ลดลง 3.24 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,635.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.96 จุด หรือ +0.12%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (8 ก.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงแตะระดับต่ำสุดของวัน ท่ามกลางความวิตกว่าตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงอีกครั้งในเดือนนี้

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 417.12 จุด เพิ่มขึ้น 2.11 จุด หรือ +0.51% และปิดบวก 2.5% ในรอบสัปดาห์นี้

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,033.13 จุด เพิ่มขึ้น 26.43 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,015.23 จุด เพิ่มขึ้น 172.01 จุด หรือ +1.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,196.24 จุด เพิ่มขึ้น 7.16 จุด หรือ +0.10%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (8 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางภาวะปั่นป่วนทางการเมืองในอังกฤษ, ราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในยุโรป และความเห็นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,196.24 จุด เพิ่มขึ้น 7.16 จุด หรือ +0.10%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น 2% ในวันศุกร์ (8 ก.ค.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด และยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 104.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 3.4%

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 107.02 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 4.1%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 ก.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือน และได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,742.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำยังคงร่วงลง 3.3% โดยเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์กดดันสัญญาทองคำ

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.8 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 19.236 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 17 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 882.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 163.20 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ 2,156.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.11% แตะที่ระดับ 107.0080

ยูโรแข็งค่าแตะที่ระดับ 1.0178 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0163 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2024 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2010 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6851 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6841 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.18 เยน จากระดับ 136.09 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9773 ฟรังก์ จากระดับ 0.9746 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2957 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2978 ดอลลาร์แคนาดา