SPA ธุรกิจเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง โบรกฯแนะถือแเป้าหมาย 11.20 บ.

SPA ภาพรวมผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/58 เป็นต้นไปจะเป็นภาพของการเร่งตัวขึ้นจากรับรู้รายได้ของ สาขาที่เปิดใหม่ไปแล้วในงวด ไตรมาส 3/58 ถึง 6 สาขา และยังมีอีก 2 สาขาที่เปิดในงวดไตรมาส 4/58 ได้แก่ Let's relax สาขาสวนพลู (เปิดเดือน ต.ค.58) และสาขา The Street รัชดา (รอเปิดเดือน พ.ย.2015) อีกทั้งในปี 59 บริษัทฯยังเร่งขยายสาขาเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะขยายเพียง 3 สาขา เป็น 8 สาขา โดยปัจจุบันมีสถานที่แน่นอนแล้วถึง 5 สาขา ทั้งนี้เราคาดว่าจำนวนสาขาที่ขยายเพิ่มจะมีทั้งในส่วนของแบรนด์ Let's Relax (4ดาว) จำนวน 6 สาขา และ บ้านสวน มาสสาจ (3 ดาว) 2 สาขา ทำให้คาดว่ารายได้ปี 2016 จะเติบโตอีก 32.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 732.4 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น(Gross profit margin) จะอยู่ที่ 43% และอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ที่ 22% ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2016 เติบโต 51.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 160.9 ล้านบาท


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (11 พ.ย.) ว่า บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/58 ที่ระดับ 28.4 ล้านบาท เติบโต 21%เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 201%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนใกล้เคียงกับ ที่เราคาดไว้ที่ระดับ 25.5 ล้านบาท ซึ่งแม้จะเกิดเหตุระเบิดกลางเมืองในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ยอดขายของบริษัทฯยังคงเติบโตสวนกระแสถึง 15%เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 57%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ 140 ล้านบาท

โดยหลักเป็นผลมาจากจำนวนสาขาที่เปิดดำเนินการในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นถึง 6 สาขา ได้แก่ Let’s relax  สาขาเอกมัย และสาขาถนนคนเดิน ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงการเข้าซื้อสปา 3 ดาว ภายใต้ชื่อ บ้านสวน มาสสาจ จำนวน 4 สาขา ได้แก่ สาขานนทบุรี ,รามคำแหง, รามอินทรา และ เจริญนคร 

ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นโดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross  profit margin) อยู่ที่ 36.1% ดีขึ้นจากไตรมาส 3/58 ที่ 32.5% แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2/58 ที่ 37.9% และอัตรา  กำไรสุทธิ (Net profit margin) อยู่ที่ 20.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมารส 3/57 ที่ 10.6% และไตรมาส 2/58 ที่ 19.4%

ภาพรวมผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/58 เป็นต้นไปจะเป็นภาพของการเร่งตัวขึ้นจากรับรู้รายได้ของ สาขาที่เปิดใหม่ไปแล้วในงวด ไตรมาส 3/58  ถึง 6 สาขา และยังมีอีก 2 สาขาที่เปิดในงวดไตรมาส 4/58 ได้แก่  Let’s relax สาขาสวนพลู (เปิดเดือน ต.ค.58) และสาขา The Street รัชดา (รอเปิดเดือน พ.ย.2015) อีกทั้งในปี 59 บริษัทฯยังเร่งขยายสาขาเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะขยายเพียง 3  สาขา เป็น 8 สาขา โดยปัจจุบันมีสถานที่แน่นอนแล้วถึง 5 สาขา ทั้งนี้เราคาดว่าจำนวนสาขาที่ขยายเพิ่มจะมีทั้งในส่วนของแบรนด์ Let’s Relax (4ดาว) จำนวน 6 สาขา และ บ้านสวน มาสสาจ  (3 ดาว) 2 สาขา ทำให้คาดว่ารายได้ปี 2016 จะเติบโตอีก 32.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 732.4 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น(Gross profit margin) จะอยู่ที่ 43% และอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ที่ 22% ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2016 เติบโต 51.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 160.9 ล้านบาท

แม้แนวโน้มกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะยังเป็นภาพของการเร่งตัวขึ้นโดยมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยสูงถึง 37% CAGR  แต่ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเหลือ Upside จำกัดเพียง 7.7% ทำให้เราปรับคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” อิงมูลค่าเหมาะสม 11.20 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF (WACC 9.2% ,L-T Growth 5%)

Back to top button