IND พุ่งแรง 15% ปักธงรายได้ปีนี้โต 25% ตุนแบ็กล็อกแน่น 2.49 พันลบ.

IND พุ่งแรง 15% ปักธงรายได้ปีนี้โต 25% จากปีก่อน 473.74 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 2.49 พันลบ. ทยอยรับรู้รายได้ปี 65 ประมาณ 20-25%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(18ก.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ณ เวลา 15:18 น. อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 14.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62.48 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้านี้(16 มิ.ย.65) นางพรลภัส ณ ลำพูน กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  IND เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโตที่ 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 473.74 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากงานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) ปัจจุบัน ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 มีอยู่ 49 สัญญารวม 2,492.89 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นงานออกแบบเบื้องต้นและออกแบบรายละเอียด 26 สัญญา มีมูลค่างานคงเหลือ 107.47 ล้านบาท อายุสัญญาคงเหลือภายในปี 2566 และงานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง 13 สัญญา มูลค่างานคงเหลือ 446.52 ล้านบาท อายุสัญญาคงเหลือภายในปี 2572, งานออกแบบพร้อมก่อสร้าง 9 สัญญา มูลค่างานคงเหลือ 1,938.88 ล้านบาท อายุสัญญาคงเหลือภายในปี 2567 และงานให้บริการอื่น ๆ 1 สัญญา มูลค่างานคงเหลือ 0.02 ล้านบาท อายุสัญญาคงเหลือภายในปี 2565 โดยจำนวนแบ็กล็อก 2,492.89 ล้านบาทนี้ จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 ประมาณ 20-25%

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอประกาศผลประกวดราคา งานที่ปรึกษาโครงการและควบคุมงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลค่าสัญญา 163 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ยื่นเสนอราคาไปแล้ว รวมทั้งรอเข้าแข่งขันประกวดราคางานที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งมีงบประมาณงานที่ปรึกษา 3,223 ล้านบาท คาดว่าจะประกาศประกวดราคาในเดือน กรกฎาคมนี้ ประกาศผลเดือน สิงหาคม 2565 และเริ่มงานในเดือน กันยายน 2565

ส่วนกรณีราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นนั้น มิได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากงานที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงานนั้นมีต้นทุนหลักคือบุคลากร ส่วนงานที่ปรึกษาออกแบบพร้อมก่อสร้างอาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้าไปแล้ว รวมทั้งมีการตั้งสำรองความเสี่ยงไว้ประมาณ 1.25-2% ของมูลค่างานที่ได้รับ

Back to top button