EPG บวก 3% โบรกแนะซื้อเป้า 13.50 บ. ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ 1.35 หมื่นลบ. โต 15%

EPG บวก 3% โบรกแนะซื้อเป้า 13.50 บ. ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ 1.35 หมื่นลบ. โต 15% คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29-32% ตามการเติบโตของ 3 ธุรกิจหลัก “Aeroflex-Aeroklas-EPP” พร้อมตั้งงบลงทุนไว้ 802 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22ก.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ณ เวลา 10:47น. อยู่ที่ระดับ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 3.28 บาท หรือ 3.28% โดยทำจุดสูงสุดที่ 59.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 9.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.19 ล้านบาท

โดยก่อนหน้า รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG กล่าวว่า ในงวดปี 2565/2566 (เม.ย.2565-มี.ค.2566) บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ 13,500 ล้านบาท เติบโต 12-15% จากงวดปีก่อนที่ประมาณ 11,700 ล้านบาท และตั้งเป้ามีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29-32% ขณะที่งวดปี 2567/2568 (เม.ย.2567-มี.ค.2568) วางเป้าจะมียอดขายประมาณ 15,000 ล้านบาท  และตามแผน 5 ปี งวดปี 2570/2571 (เม.ย.2570-มี.ค.2571) จะสามารถมียอดขายประมาณ 20,000 ล้านบาท

โดยมาจากธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-12% มาจากการรักษาส่วนแบ่งการตลาดสำหรับสินค้าเกรดพรีเมี่ยมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

2.ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 20-23% โดยยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่ม OEM ค่ายยานยนต์ของยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาสินค้านวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจในออสเตรเลียมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV ในออสเตรเลีย โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2565 TJM Products Pty.Ltd. (TJM) ออสเตรเลีย เปลี่ยนชื่อเป็น Aeroklas Asia Pacific Group (AAPG) โดยมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเสริมการทำงานร่วมกันของธุรกิจและทุกแบรนด์ในออสเตรเลียในอนาคต

และ3.ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5-8% โดยยังคงให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ Capacities Driven มาบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการทำตลาดในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์นวัตกรรมได้หลากหลายชนิดสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคและการใช้ชีวิตตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนาของบริษัท อีพีจี อินโนเวชัน เซ็นเตอร์ จำกัด

ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทมีการเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ในประเทศออสเตรเลีย มูลค่าไม่เกิน 75 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1,880 ล้านบาท จะสามารถสร้างกำไรและรายได้เพิ่มให้กับบริษัทได้ทันที ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.38-0.40 เท่า หลังจากซื้อกิจการดังกล่าว D/E จะอยู่ที่ 0.50 เท่า ซึ่งแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะกิจการดังกล่าวสามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันที

ด้านงบลงทุนในงวดปี 2565/2566 บริษัทตั้งไว้ประมาณ 802 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในธุรกิจ Aeroflex ประมาณ 272 ล้านบาท ธุรกิจ Aeroklas ประมาณ 362 ล้านบาท และธุรกิจ EPP ประมาณ 168 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงคำแนะนํา “ซื้อ” ราคา เป้าหมาย 13.50 บาท อิง FY23E ที่ 21.5 เท่า (5-yr average PER) โดยยังไม่ได้รวมดีลดังกล่าวในประมาณการ ทั้งนี้หากรวมดีลที่ประชุมบอร์ด EPG (7 มิ.ย.65) มีมติอนุมัติให้ Aeroklas Australia Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd (4Way) ในประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นการซื้อหุ้นทั้ง 100% คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 75 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (จ่ายส่วนแรก 58 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียก่อน ส่วนอีกไม่เกิน 17 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย จะจ่ายในอีก 1 ปี โดยจะพิจารณาจากผลการดำเนินงาน EBIT)

Back to top button