ส.อ.ท.คาดศก.ไทยปี 59 แข็งแกร่งขึ้น แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงศก.คู่ค้าชะลอตัว

ส.อ.ท.คาดศก.ไทยปี 59 แข็งแกร่งขึ้น แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงศก.คู่ค้าชะลอตัว


นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 59 น่าจะได้รับแรงส่งที่ต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นวงเงิน 1.36 แสนล้านบาท โดยผ่านการใช้จ่ายในกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง การส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

รวมทั้งเม็ดเงินจากการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่จังหวัดชายแดนและในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการลงทุนตามยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมระยะ 8 ปี ที่น่าจะลงสู่ระบบได้มากขึ้น ประกอบกับ ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่า จะขยายตัวได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตลาดเอเชีย

“มีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 59 มีแนวโน้มว่าจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าปี 58 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของไทย ความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนจากการที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงปี 59″นายศุภรัตน์ กล่าว

สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 58 ได้ดำเนินมาถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีแล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยต้องเผชิญกับปัจจัยบั่นทอนทั้งจากภายนอกและภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการฟื้นตัวยังไม่สม่ำเสมอกลับต้องเผชิญปัจจัยลบจากการชะลอตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และความผันผวนในตลาดการเงิน ได้ส่งผลกระทบให้ภาคการส่งออกที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหดตัวต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ภาคการผลิตภายในประเทศได้ซบเซาลงตามความเชื่อมั่นและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อ่อนแอจากผลกระทบของราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ อีกทั้งปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงและกินเวลายาวนาน และหนี้ภาครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เป็นต้น

ด้านนายพิภพ โชควัฒนา รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งอุปสงค์จากต่างประเทศที่ยังฟื้นตัวได้ไม่แข็งแกร่ง เนื่องด้วยความซบเซาของภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยลดลง ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกให้ตกต่ำลงด้วย ด้านอุปสงค์ภายในประเทศเองก็ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำ หนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคซบเซาลงอย่างมาก การลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวจากการขาดความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนภาคการผลิตยังชะลอตัวต่อเนื่องทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปี 58 ยังได้แรงส่งที่ดีจากภาคการท่องเที่ยวที่สามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 58 รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นวงเงินรวม 1.36 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันว่าจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและภาวะการจับจ่ายใช้สอยในปี 58 นี้ให้คล่องตัวมากขึ้น พร้อมกับเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่องในปี 59 ต่อไป

 

 

Back to top button