โบรกฟันธง TACC กำไร Q2 นิวไฮต่อ รับลูกค้า “เซเว่น” เพิ่ม-ต้นทุนวัตถุดิบลด แนะเป้า 8.7 บ.
โบรกฟันธง TACC กำไรไตรมาส 2/65 แตะ 66 ลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หลังจำนวนลูกค้าเข้าร้าน 7-11 ฟื้นตัวดี-ต้นทุนวัตถุดิบลดลง แนะซื้อเป้า 8.7 บ. คงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ไว้ที่ 234 ลบ.
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ส.ค.65) เกี่ยวกับหุ้นบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 66 ล้านบาท เติบโต 8.2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 22.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง มาจาก 1. คาดรายได้ฟื้นตัวดี 13.9% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 9.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของจำนวนลูกค้าเข้าร้าน 7-11 โดยหลังเปิดเมืองเห็นการกลับมาของนักเรียน คนทำงานและนักท่องเที่ยว ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกค้าเป้าหมายของบริษัท
รวมทั้ง 2. มีการออกเครื่องดื่มรสชาติใหม่ 1 โถกด (พั้นซ์ไฮซี) และ 1 All Café (Yuzu) 3. เริ่มรับรู้รายได้ลูกค้า Non 7-11 มากขึ้นทั้งร้านกาแฟพันธุ์ไทย, Jungle Café, Bon Café และเครื่องดื่มตู้กด 4. ภาพรวมต้นทุนวัตถุดิบยังบริหารจัดการได้ ส่วนหนึ่งมีการซื้อล่วงหน้าไว้ครอบคลุมถึงกลางปี 65 คาดอัตรากาไรขั้นต้นไตรมาส 2/65 จะลดลงเล็กน้อยเป็น 37.8% จาก 39% ในไตรมาส 1/65 และ 38.9% ในไตรมาส 2/64 และ 5. คาดยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ลดการทำโปรโมชั่นลง หลัง Traffic กลับมาฟื้นตัว คาด SG&A to Sale ขยับลงเป็น 16.5% จาก 16.8% ในไตรมาส 1/65 และ 19.9% ในไตรมาส 2/64
ทั้งนี้หากกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 เป็นไปตามคาด บริษัทจะมีกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 65 อยู่ที่ 127 ล้านบาท เติบโต 25.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 54% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/65 น่าจะอ่อนตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วง Low Season เพราะเป็นหน้าฝนและคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 4/65 ที่เข้าสู่ High Season ของธุรกิจ
สำหรับปัจจัยบวกต่อแนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 65 ที่น่าจะยังเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อน ได้มาจากแผนการออกสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่ม, คาดรายได้จาก Character Business จะกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้นในครึ่งหลังปี 65 หลังจากครึ่งแรกปี 65 ฟื้นช้ากว่าคาดเพราะโอมิครอน และการเติบโตไปพร้อมกับการขยายสาขาในกัมพูชาของ 7-11 ส่วนสาขาในลาวน่าจะได้เห็นปี 66
ขณะที่ปัจจัยลบในช่วงครึ่งปีหลังคือ ยังต้องติดตามแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบ คาดต้นทุนใหม่ที่สูงขึ้นจะเริ่มทยอยเข้ามาในไตรมาส 3/65 แต่ด้วยมุมมองว่าต้นทุนวัตถุดิบได้ผ่านพีคแล้ว ทำให้บริษัทซื้อวัตถุดิบแค่พอใช้ ขณะที่ล่าสุดราคาวัตถุดิบหลายรายการเริ่มอ่อนตัวลง อาทิ มอนโตเดร็กซิน และครีมเทียม เป็นต้น มองเป็นบวกต่อไตรมาส 4/65
ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ไว้ที่ 234 ล้านบาท เติบโต 9.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และคาดโตต่อเนื่องในปี 66 ราว 13.6% เมื่อเทียบจากปีก่อน ผ่านการเติบโตกับ 7-11 และ Non 7-11 รวมถึงเริ่มมีแผนขยายเข้าไปท าการตลาดลูกค้ากลุ่ม Modern Trade ในต่างประเทศทั้งกลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม และ Character Business ที่มีตัวการ์ตูนหลายตัวได้ลิขสิทธิ์ให้ต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดได้เห็นการฟื้นตัวและพัฒนาการชัดเจนในปี 66 ยังคงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 8.7 บาท (อิง PE เดิม 23 เท่า)