หุ้นโตแรง (ที่ต้องมี)

เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ทีไร “โมนิก้า” มักมีอาการกระชุ่มกระชวยเป็นประจำ เพราะได้เริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับตลาดหุ้นอีกครั้ง


เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ทีไร “โมนิก้า” มักมีอาการกระชุ่มกระชวยเป็นประจำ เพราะได้เริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับตลาดหุ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ก็อยากจะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่มีสตอรี่โกรทเป็นแบ็กอัพ จึงขอเล่าถึงประเด็นสำคัญที่อยากให้แฟนคลับได้รู้ เพราะข้อมูลที่เล่าให้ฟังวันนี้ น่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาหุ้นในกระดานไปต่อสวย ๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่แฟนคลับต้องตัดสินใจอีกครั้งว่า “เล่น” หรือ “ถอย” พะยะค่ะ

เนื่องจากข้อมูลที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังเที่ยวนี้เกี่ยวกับกำไรโตขั้นต่ำในระดับ 50% และเมื่อคิดบนตรรกะเส้นตรงจะเห็นว่า ราคาหุ้นก็ควรพุ่งเท่ากับกำไรที่เพิ่มขึ้น เดี๊ยนถึงมองว่าจังหวะนี้เหมาะต่อการโหนกระแสมากสุด และไม่ต้องวอรี่กับการแกว่งตัวไปมาของดัชนี เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1,625.92 จุด ลบไป 10.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.09 หมื่นล้านบาท มันคือภาพของการพักฐานเพื่อรอจังหวะขึ้นไงละคะ

สำหรับหุ้นที่ติดโผผลงานเด่นเป็นประจำ ต้องยกให้กับหุ้นตัวเทพอย่าง JMT ซึ่งได้ชื่อเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการเก็บหนี้ และยังสามารถเบ่งกำไรโตได้ทุกไตรมาส จนกลายเป็นหุ้นที่นักเล่นเข้ามาเล่นเก็งกำไรหลายรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาแนวรับเที่ยวก่อนที่บริเวณ 70 บาทให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 74 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาท ใกล้จะถึงเวลาลุยอีกแล้วน่ะซี

เหมือนกับหุ้นตัวแม่ JMART ก็เด้งขึ้นจากโลว์บริเวณ 43 บาทขึ้นมาย่ำฐานที่บริเวณ 50 บาทพักหนึ่งนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการรอเวลาเทกตัวขึ้นรอบใหม่ และเที่ยวนี้ก็ได้ผลงานกำไรโตเกือบ 70% เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 74 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาท น่าเล่นขนาดไหนเมื่อเทียบกับไฮแรกที่บริเวณ 55 บาทเจ้าค่ะ

ส่วนหุ้น “ทรงสวย กำไรโต เน้นลงทุน” คงต้องมองไปที่ SNNP เป็นรายถัดมาสำหรับการเล่น เพราะเมื่อดูจากการเติบโตที่มาจาก “ในประเทศ” และ “ต่างประเทศ” มันเป็นการสะท้อนภาพแนวคิดของผู้บริหารที่ต้องการโกอินเตอร์เต็มรูปแบบ และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจได้เป็นอย่างดี เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 15.90 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46 ล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสของการลงทุนก็เท่านั้นเอง!

ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงไปถึงน้องขาว WICE ซึ่งโชว์ผลงานสวนคำสบประมาทของบรรดาแมงลือได้อย่างสะแด่วแห้ว “โมนิก้า” จึงต้องรีบหันมามองการขยับตัวของราคาหุ้นไปไกลหรือยัง? ผลปรากฏว่ายังมีแก๊ปให้ไปต่ออย่างแน่นอน เพราะวันนี้หุ้นเทรดบน P/E 13 เท่า จึงทำให้การยืนปิดที่ระดับ 13.70 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 177 ล้านบาท อยู่ในข่าย “ดาวน์ไซด์ต่ำ อัพไซด์สูง” นะตัวเอง

นอกจากนี้ยังมีเสือซ่อนเล็บอย่างหุ้น TCAP เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ เพราะเมื่อดูจากกำไรที่โต 60% เทียบกับการเทรดของหุ้นไม่เกิน P/E 8 เท่า “โมนิก้า” ย่อมเลือกหุ้นตัวนี้เป็นท็อปพิกของหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง ผนวกกับเที่ยวก่อนเคยเห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปแถว 44 บาท จึงเชื่อว่าเที่ยวนี้คงไม่มีอะไรยากเกินแกง เพราะรอบนี้ได้แรงหนุนฝรั่งเข้ามาช่วยเต็มตัว และการยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 40 ล้านบาท ถึงโดนใจอย่างแรงค่ะ

ส่วนม้ามืดที่ “โมนิก้า” อยากให้นักเล่นจับตาเป็นพิเศษ คงมองไปที่น้องใหม่ที่ชื่อ PEACE หลังโชว์กำไรไตรมาส 2 โต 85% เลยมีลุ้นว่าไตรมาส 3 จะโตแบบปัง ๆ ได้อีกหรือไม่? แต่ที่แน่ ๆ การยืนปิดที่ระดับ 4.30 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 6.60 เท่า และยีลด์ 4% มันเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้เดี๊ยนต้องหันมาสนใจหุ้นตัวนี้แบบจริงจังน่ะซี

ตบท้ายกันที่ความเคลื่อนไหวของลูกนักการเมืองที่มีคดีความเกี่ยวกับการข่มขืนหญิงสาวกันสักนิดหนึ่ง เพราะมีข่าวเม้าท์ให้แซ่ดว่า เตรียมนัดสืบพยานครั้งแรกในเดือน มิ.ย. 66 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นเลยเกิดอาการผวาหนักอีกครั้ง เพราะกลัวเสือหนุ่มรายนี้แอบเก็บแต้มเพิ่มแบบเงียบ ๆ เนื่องจากสัญชาตญาณของเสือมันได้ชื่อเป็นนักล่าโดยกำเนิด..แล้วใครจะไปห้ามเสือหื่นตัวนี้ได้ละคะ…อิอิอิ

Back to top button