TKC ชู 6 สมาร์ทโซลูชั่น ขับเคลื่อนธุรกิจ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 20%

TKC เดินหน้าเปิดธุรกิจใหม่ ชู 6 ธุรกิจสมาร์ทโซลูชั่น ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใส เตรียมเซ็นสัญญา 412 ลบ. ดันรายได้ปี 65 แตะ 2.6 พันล้านบาท โต 20% พร้อมแจกปันผล 0.20 บ. ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ส.ค.65 และกำหนดจ่าย 9 ก.ย.65


นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคม และไอซีที โดยชู 6 ธุรกิจสมาร์ทโซลูชั่น ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต ประกอบด้วยระบบ Smart Hospital, Smart Airport, Cyber Security, Smart Platform, Smart Government  และ Smart Farming

บริษัทมุ่งสร้างธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในชีวิตประจำวัน และการทำงาน ยกระดับมาตรฐานคุณภาพการจัดการในโรงพยาบาล สนามบิน สร้างแพลตฟอร์มอัจฉริยะ สร้างระบบคลาวด์ภาครัฐ พัฒนาบุคลากรด้าน Cyber Security และนำเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาการเกษตร เพื่อพัฒนาผลผลิต และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

โดยวางเป้าหมายขยายการลงทุนในธุรกิจที่เป็นเทรนด์อนาคต ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเริ่มเข้าไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโซลูชั่น ได้แก่

  1. Smart Hospital หรือ โรงพยาบาลอัจฉริยะ TKC สร้างต้นแบบโรงพยาบาลอัจฉริยะที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วย Technology 5G, Hybrid Cloud, AI, และ Blockchain สำหรับระบบห้องฉุกเฉิน (Emergency Room) ระบบและรถฉุกเฉิน (EMS) AI สำหรับ คลินิกโรคไม่ติดต่อ -(NCD)  AI สำหรับพยาธิวิทยา (Pathology)  บันทึก Health Record ด้วย Blockchain โดยเฟสแรก มูลค่าลงทุน 60-100 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการขยายการลงทุนต่อเนื่องในเฟส 2 หรือ 3 โดยมีแนวโน้มขยายโมเดลดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ
  2. Smart Airport หรือ สนามบินอัจฉริยะ บริษัทเข้าไปติดตั้งระบบเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ติดตามและตรวจนับความหนาแน่นของผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ (Real-Time Passenger Tracking and Counting System) ระบบจะแสดงระยะเวลาที่ผู้โดยสาร (Passenger) ต้องรอคอยระหว่างเข้าคิวในพื้นที่ตรวจบัตรผู้โดยสาร (Check-in Counter) พื้นที่ตรวจค้นผู้โดยสาร (Security Checkpoint), พื้นที่ตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control)

โดยผู้โดยสาร (Passenger) สามารถตรวจสอบสถานะการรอคอยคิวผ่านจอมอนิเตอร์แบบ Real time ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารทราบ และประเมินระยะเวลาในการรอคอยได้ด้วยตนเอง ระบบสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่สนามบินถึงความหนาแน่นของผู้โดยสาร เพื่อสามารถบริหารจัดการกระจายไปยังจุดให้บริการที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า และช่วยในเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้ด้วย

สำหรับภายในสนามบิน Smart Airport นั้นบริษัทสร้างระบบ Smart CCTV ด้วย โดยมีโซลูชั่นระบบบริหารความปลอดภัยจากบริษัทชั้นนำ ได้แก่ Cognyte Symphia ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำ ออกแบบการใช้งานด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่หลากหลาย อาทิเช่น  Symphia VMS, Symphia One, Symphia Control, Symphia FaceDetect โดยเข้าไปดำเนินการในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินเชียงใหม่, และสนามบินภูเก็ต มูลค่ารวม 350 ล้านบาท

3.Cyber Security หรือ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ TKC จัดอบรมทางด้าน Cyber Security ให้กับบุคลากรของหน่วยงาน Critical Information Infrastructure ในประเทศ ในหลักสูตร-ระดับพื้นฐานมากกว่า 1,200 คน ระดับผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 300 คน ไปจนถึงระดับบริหาร CISO จัดการสอบประกาศณียบัตรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จัดทำระบบจำลองยุทธเพื่อฝึกซ้อมทางไซเบอร์ (Cyber Range Platform) และให้คำปรึกษา ออกแบบ และจัดทำระบบและโซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่มีการให้บริการประชาชนจำนวนมากและมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

  1. Smart Platform หรือ แพลตฟอร์มอัจฉริยะ บริษัทดำเนินการสร้างระบบรับแจ้งความออนไลน์ของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าแจ้งความกับตำรวจผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ง่าย โดยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อวางนโยบาย วางแผนปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามได้
  2. Smart Government TKC ทำระบบ Government Data Center and Cloud ระบบ Cloud กลางภาครัฐที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ใช้ทรัพยากรในหน่วยงานภาครัฐให้ได้ประโยชน์สูงสุด ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีของประเทศ หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากทั่วโลกไปพร้อมๆ กัน ระบบบริหารจัดการและ ระบบรักษาปลอดภัยเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
  3. Smart Farming หรือ เกษตรอัจฉริยะ เบื้องต้นทำโครงการสร้างความยั่งยืนให้องค์กร และสร้างความยั่งยืนสังคม เป็นโครงการ ESG ของบริษัท โดยบริษัทนำระบบเทคโนโลยีเข้าไปสอน และสร้างให้เกษตรกรใช้จริง ซึ่งได้เข้าไปดำเนินให้มูลนิธิณัฐภูมิในจังหวัดลำปาง โดยการนำเทคโนโลยีระบบ IoT อาทิ ระบบหยดน้ำ นำระบบโดรน (drone) ในหว่านเมล็ดพืช และใช้โดรนในการดูคุณภาพของดิน

อย่างไรก็ดี สมาร์ทโซลูชั่นต่างๆ เป็นโอกาสสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT  สร้างและออกแบบเน็ตเวิร์ค และเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ เป็นการยกระดับองค์กร ยกระดับประเทศ

นอกจากนี้ ยังเผยถึงผลประกอบการของ TKC  ว่าในงวดไตรมาสที่ 2/2565 ระหว่างเดือนเมษายน ถึง เดือนมิถุนายน 2565 มีรายได้ 612.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีรายได้ 590.32 ล้านบาท จำนวน 22.01 ล้านบาท คิดเป็น 3.73% โดยรายได้หลักไตรมาส 2/2565 มาจากงานโครงการ 314.97 ล้านบาท คิดเป็น 51.50% รายได้จากงานบริการวิศวกรรม และการบำรุงรักษา 227.60 ล้านบาท คิดเป็น 37.22 % และรายได้จากการขาย 68.98 ล้านบาท คิดเป็น 11.28 % ซึ่งรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยในไตรมาสที่ 2/2565 บริษัททำกำไรเบ็ดเสร็จ 91.6 ล้านบาท ได้กำไรสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 12.3 ล้านบาท ที่ได้ 79.34 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และทำกำไรได้สูงขึ้น 130.59 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ซึ่งอยู่ที่ 39.73 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 ระยะเวลา 6 เดือน บริษัทมีรายได้รวม 1,251.39 ล้านบาท ทำกำไรรวม 131.34 ล้านบาท

โดยเผยว่า TKC ตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงาน สำหรับงวด 6 เดือนแรกประจำปี 2565 เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 24 สิงหาคม 2565 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565

“สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่ารายได้ในปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % หรือราวประมาณ 2,600 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทมีงานประมูลใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา 412 ล้านบาท มีงานคงค้างในมือ (Backlog) ประมาณ 3,000 ล้านบาท และเตรียมรอผลประกาศได้งานเพิ่มเติมอีกราว 755 ล้านบาท” นายสยาม กล่าว

 

Back to top button