SET พลิกปิดลบ 2 จุด ตอบรับการเมืองในปท.-รอผลประชุมเฟด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบๆ ช่วงบ่ายค่อนข้างทรงตัว ตอบรับปัจจัยการเมืองในประเทศหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมีมติเสียงข้างมากให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

โดยเมย์แบงก์ มองเรื่องนี้เป็นกลาง และ in line ตามที่คาด เพราะแม้ศาลจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงอยู่ รองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ขณะที่คาดว่าประมาณ 1 เดือนหรือราวปลายเดือนก.ย.ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัย ระหว่างนี้ ครม.ยังทำงานได้ตามปกติไม่ได้เกิดสูญญากาศ ทำให้ภาพไม่ได้บวกและลบ

สำหรับปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม คือทิศทาง Fund Flow ว่ามีมุมมองอย่างไรต่อนโยบายการเงินของสหรัฐ โดยเฉพาะการส่งสัญญาณจากที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมืองแจ็กสัน โฮล ระหว่างวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ ทำให้ตลาดแกว่งตัวรอปัจจัยดังกล่าวไปก่อน โดยไฮไลท์อยู่ที่ 26 ส.ค.นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์

ขณะที่การจัดงาน Thailand Focus 2022 มองว่าช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยช่วงเช้าก็ฉายภาพเศรษฐกิจไทยยังดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติ เป็นปัจจัยพยุงตลาดได้บ้าง ซึ่งในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยดูดีกว่าตลาดภูมิภาค วันนี้หุ้นไทยและกลุ่ม TIPs ยังยืนบวกได้ดีกว่าตลาดภูมิภาคที่เคลื่อนไหวลบ

โดยแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดแกว่งตัวกรอบแคบรอการประชุมเฟดแจ็กสันโฮล ให้แนวรับที่ 1,625 จุด แนวต้านแรกที่ 1,640 จุด ถัดไป 1,650 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 6,071.94 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

PRINC มูลค่าการซื้อขาย 5,463.96 ล้านบาท ปิดที่ 7.65 บาท ลดลง 1.85 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,630.73 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,665.29 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,306.27 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท