WHA อัพเป้ายอดขายที่ดินปี 65 แตะ 1,650 ไร่ ทยอยปิดดีลลูกค้าอีก 230 ราย

WHA อัพเป้ายอดขายที่ดินปี 65 แตะ 1,650 ไร่ จากเดิม 1,250 ไร่ จ่อปิดดีลลูกค้าอีก 230 ราย ชี้แนวโน้มลูกค้าต่างประเทศทยอยกลับเข้ามาลงทุนในไทย คาดยอดโอนที่ดินนิคมฯ ปี 65 ทะลุเป้า 1,100 ไร่ ตั้งเป้าปิดดีลเช่าคลังสินค้า 185,000 ตารางเมตร


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมในปี 65 เป็น 1,650 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,400 ไร่ และเวียดนาม 250 ไร่ จากเดิมวางเป้าหมายไว้ที่ 1,250 ไร่ เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกสามารถปิดดีลขายที่ดินไปได้แล้ว 513 ไร่ และในไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มที่มากขึ้น โดยยังมีการเจรจาดีลขายที่ดินนิคมที่ได้ทำ MOU กับลูกค้าไว้แล้วจะทยอยปิดดีลอีก 230 ราย และยังมีดีลอื่นๆที่จะปิดการขายเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยบริษัทเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของผู้ประกอบการกลับมาเริ่มทยอยลงทุนกันมากขึ้น หลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง หลายประเทศรวมถึงไทยกลับมาเปิดเมืองและประเทศ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยกลุ่มลูกค้าที่กลับมาลงทุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป กลับเข้ามาเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตอีกครั้ง

ประกอบกับมีกระแสการย้ายฐานการผลิตจากจีนเข้ามาสู่อาเซียน ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ภาคอุตสาหกรรมจะย้ายเข้ามา เช่นเดียวกับ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ทำให้บริษัทได้อานิสงส์เชิงบวกในปัจจัยดังกล่าว

ขณะเดียวกัน มองว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทวีความร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลบวกต่อกลุ่มประเทศอาเซียนในแง่ของการย้ายฐานการผลิตมาอีกในระยะยาว เพื่อผลิตสินค้าส่วนประกอบต่าง ๆ ป้อนให้กับผู้ผลิตชั้นนำในโลก ทำให้การเติบโตทางด้านความต้องการที่ดินนิคมอุตสาหรรมเพื่อก่อสร้างโรงงานในกลุ่มอาเซียนที่เป็นประเทศเกิดใหม่มีสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้า สินค้าอุปโภคและบริโภค และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

ส่วนยอดโอนที่ดินนิคมฯ ของบริษัทในปี 65 คาดว่าจะทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,100 ไร่ จากการที่บริษัทสามารถปิดดีลขายที่ดินกับลูกค้าได้มากขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีมูลค่ายอดขายที่ดินที่รอโอน (Backlog) กว่า 649 ไร่ที่จะทยอยโอนเข้ามา และคาดว่าในปี 66 จะมี Backlog ที่ทยอยโอนเข้ามาอีกมากกว่า 1,000 ไร่

ด้านพื้นที่เช่าคลังสินค้าบริษัทยังมั่นใจว่าในปีนี้สามารถปิดดีลทำสัญญาลูกค้าเช่าพื้นที่คลังสินค้าใหม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 185,000 ตารางเมตร จากที่ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่คลังสินค้ากับลูกค้าใหม่ไปแล้ว 98,214 ตารางเมตร รวมถึงมั่นใจว่าสามารถทำสัญญาลูกค้าเช่าคลังสินค้าระยะสั้นได้ตามเป้าที่ 100,000 ตารางเมตร จากครึ่งปีแรกทำสัญญาลูกค้าเช่าพื้นที่คลังสินค้าระยะสั้นไปแล้ว 96,071 ตารางเมตร

นอกจากนั้นในช่วงไตรมาส 3/65 บริษัทยังมีการเจรจากับลูกค้าที่สนใจแช่าพื้นที่คลังสินค้ารวมกกว่า 300,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทยอยทำสัญญาในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะทำให้เป้าพื้นที่เช่าของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เช่าคลังสินค้าทั้งสิ้น 2.7 ล้านตารางเมตร ส่วนอาคารสำนักงานให้เช่าของบริษัทที่มีอยู่ 5 แห่งที่เปิดให้บริการ พื้นที่รวม 100,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอัตราการเช่าอยู่ที่ 60% คาดว่าจะเริ่มมีผู้เช่าทยอยเข้ามาเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในปลายปีนี้บริษัทจะขายสินทรัพย์ที่เป็นพื้นที่เช่าคลังสินค้า 159,000 ตารางเมตร มูลค่า 4 พันล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) และจะขายคลังสินค้าให้เช่าอีก 48,000 ตารางเมตร มูลค่า 1.3 พันล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล (WHAIR) ซึ่งจะทำให้บริษัทจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ามาหนุนผลงานในช่วงไตรมาส 4/65

Back to top button