ทุบจนเข่าอ่อน

สิ่งที่ “โมนิก้า” รู้สึกจั๊กจี้หัวใจทุกครั้งที่เห็นดัชนีทรุดหนัก คงหนีไม่พ้นคำอธิบายครั้งก่อน ๆ ที่ชอบพูดถึงเรื่องคลายกังวลจากผลกระทบต่าง ๆ


สิ่งที่ “โมนิก้า” รู้สึกจั๊กจี้หัวใจทุกครั้งที่เห็นดัชนีทรุดหนัก คงหนีไม่พ้นคำอธิบายครั้งก่อน ๆ ที่ชอบพูดถึงเรื่องคลายกังวลจากผลกระทบต่าง ๆ พอใกล้ถึงเวลาเข้ามาจริง ๆ กลับเกิดอาการจิตตกขึ้นมาเสียอย่างนั้น เดี๊ยนถึงมองการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่ได้ต่างจากเรื่องที่เคยเกริ่นนำให้ฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “หมดรอบ..ขายทิ้ง” เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า แนวต้าน 1,650 จุดยากที่จะฝ่าขึ้นไปได้ไงละคะ

งานนี้ถึงต้องยอมรับกันแบบตรง ๆ ว่า ตลาดหุ้นไทยยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ และตราบใดที่การขึ้นลงยังผูกติด “ฝรั่งหัวทอง” กับ “กองทุน” (วานนี้กองขายมากถึง 3.67 พันล้าน) ก็ต้องเข้าใจเหตุผลที่นักลงทุนกลุ่มนี้ถล่มขายไม่ยั้ง แถมเมื่อดูจากการขึ้นของตลาดหุ้นไทยราว 130 จุดภายในระยะเวลาเดือนครึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ตลาดหุ้นไทยต้องโดนเขย่าเพื่อทดสอบแรงขายมีเยอะขนาดไหน? และเป็นการพิสูจน์แนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,600 จุดแข็งเพียงใดนะจ๊ะ

ฉะนั้นการที่เดี๊ยนจั่วหัวจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ก็คงไม่เว่อร์เกินไปสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ เพราะการทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 1,626.52 จุด ลบไป 18.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.14 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” พยายามพร่ำบอกมาตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ก่อน หลังราคาหุ้นบลูชิพบางกลุ่มเริ่มมีอาการแปลก ๆ ผสานกับไตรมาส 3 เป็นจังหวะที่บริษัทจดทะเบียนเบ่งกำไรได้ไม่ค่อยดี จึงเหมาะต่อการ “ทุบแล้วซื้อ” เจ้าค่ะ

โดยเฉพาะในรายของ PTTEP ทำท่าเหมือนไปต่อไม่ไหว และกำลังโรยตัวลงอีกครั้ง แต่วานนี้กลับแสดงกำลังภายในด้วยการเด้งขึ้นมาปิดที่ 172 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.97 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เดี๊ยนประเมินไว้มาก เพราะดูจากปัจจัยรอบด้านน่าจะกดดันให้หุ้นลงมากกว่า เดี๊ยนจึงเซอร์ไพร้ส์สุด ๆ และรอลุ้นว่า หุ้นจะขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 178 บาท ได้อ๊ะป่าว?

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นประกันชีวิตตัวแรงอย่าง BLA ก็พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 36.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท ทั้งที่โมเมนตัมของหุ้นอยู่ในช่วงย่ำฐานเป็นเวลาสองสัปดาห์ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับศึกษาพฤติกรรมของหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ทุกคนเม้าท์สนั่นหวั่นไหวว่า “ดี” แต่หุ้นกลับมุดหัวลงลูกเดียวล่ะพ่อทูนหัว..อิอิอิ

ส่วนรายที่อาการหนักสุดน่าจะเป็นในรายของ ADVANC หลังราคาหุ้นทำโลว์ใหม่ให้เห็นเป็นรอบ ๆ ไล่ตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. ก็ลงไปอยู่แถว 215 บาท ต่อจากนั้นก็ลงไปทำโลว์ใหม่ที่ 205 บาทในช่วงต้นเดือน พ.ค. ขณะที่สิ้นเดือน มิ.ย ก็ลงไปทำโลว์แถว 195 บาท ส่วนวานนี้ลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 189 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่ 191.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาท โดยมีเรื่องกำไรลดเป็นตัวถ่วงราคาแบบนี้..เดี๊ยนเหนื่อยแทนเลยจ้า!

เช่นเดียวกับในรายของ DOHOME ทำท่าเหมือนจะไปได้สวย สุดท้ายก็ทานกระแสตลาดไม่ไหว จนกลับลงมายืนที่ระดับ 15.20 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 344 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการช้อนหุ้นมากกว่า แถมเที่ยวก่อนเห็นหุ้นเด้งกลับตรงบริเวณ 13.70 บาท จึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า ตรงนั้นเป็นเซฟโซนสำหรับคนใจเย็น ส่วนคนที่อยากลุยเลยทันที ขอแนะนำให้มองบริเวณ 14.60 บาท แล้วกันนะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นคล้ายคลึงกับการเคลื่อนไหวของหุ้น HANA เพราะเป็นหุ้นที่โดนทุบลงมาแล้ว ก็ไม่เคยกลับขึ้นไปได้อีกเลย ซึ่งดีสุดก็ทำได้แค่แกว่งตัวออกด้านข้าง และเด้งแรงเป็นบางครั้งเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกรอบการเล่นในช่วง 1 เดือนอยู่ที่ระดับ 42-48 บาท เทียบกับราคาปิดที่ 43.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 499 ล้านบาท น่าเล่นไหม?

ตบท้ายกันที่ข่าวคนดังที่ชื่อ Nutty’s Diary” กันสักหน่อย! เพราะเป็นคนที่อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเป็นเซียนหุ้น ชนิดที่คนในวงการตลาดหลักทรัพย์ฯ อึ้งกิมกี่กันถ้วนหน้า ยิ่งมีข่าวโกงเงินชาวบ้านจนมูลค่าความเสียหายพุ่งขึ้นไปแตะ 2 พันล้าน ยิ่งทำให้เห็นกลยุทธ์ชักจูงคนด้วยการให้ผลตอบแทนสูงถึงระดับ 35% ต่อเดือน มันก็เหมือนแชร์ลูกโซ่ที่เป็นคดีความก่อนหน้านี้ทั้งนั้น! และอย่าคาดหวังการจะได้เงินคืนจากพวก 18 มงกุฎ หรือแม้แต่ในทางคดีที่มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี..เอาเข้าจริงจะติดเกิน 10 ปีหรือเปล่า?..ของมันเคยเห็นกันอยู่นะนายจ๋า!

Back to top button