แรงซื้อกลับ “แบงก์-อิเล็กฯ” พยุง SET เหลือปิดลบ 0.15 จุด ลุ้นยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยนักลงทุนยังกังวลทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐ และการที่ Gazprom ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติของรัสเซียประกาศปิดท่อส่งก๊าซฯ Nord Stream 1 ไปยังยุโรปอย่างไม่มีกำหนดอาจกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจยุโรป

อีกทั้งนักลงทุนยังรอติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้ โดยคาดว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน รวมถึงจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 8 ก.ย.ว่าจะส่งสัญญาณถึงทิศทางดอกเบี้ยอย่างไร และการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

ขณะที่บ้านเรายังไม่มีปัจจัยใหม่ แต่ให้ติดตามการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ นายกรภัทร คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,625-1,630 จุด

อย่างไรก็ดีตลาดภาคบ่ายมีแรงซื้อกลับจากกลุ่มแบงก์และอิเล็กทรอนิกส์จึงประคองดัชนีเหลือลบ 0.15 จุด จากตลาดภาคเช้าปิดลบ 5 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,251.13 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,994.83 ล้านบาท ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,760.94 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,738,86 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,578.31 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท