ป. เดินสายปั่นดีล!
วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องกระโดดลงมาเล่นกับข่าวปั่นหุ้น หลังเพื่อนพ้องน้องพี่เม้าท์ตรงกันว่า เจ้ายุทธจักรปั่นดีลอย่าง อาจารย์.ป
วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องกระโดดลงมาเล่นกับข่าวปั่นหุ้น หลังเพื่อนพ้องน้องพี่เม้าท์ตรงกันว่า เจ้ายุทธจักรปั่นดีลอย่าง อาจารย์ ป. คือโต้โผใหญ่ในการปั้นดีลทิพย์ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แถมแต่ละดีลที่เข้าไปคลุกคลีก็เป็นลักษณะปาดหน้าเค้กคนอื่นมาอีกทีหนึ่ง จึงกลายเป็นเรื่องที่โจษจันในหมู่คนขาเผือกที่ดันไปได้ยินเรื่องนี้เข้าโดยบังเอิญ เดี๊ยนเลยอาสามาถ่ายทอดให้ฟังอีกทีนะนายจ๋า!
ว่ากันว่า เดิมทีอาจารย์ ป. เป็นที่รู้จักมักจี่ในแวดวงตลาดหุ้นเป็นเวลานาน เพราะแกเป็นเจ้าของโบรกเกอร์ที่มีลูกเล่นแพรวพราว และยังเป็นคนกว้างขวางในหมู่ของนักธุรกิจสีเทาแทบทั้งนั้น (การเสียชีวิตของ เสี่ยจืด ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้คนพูดถึงกันเยอะ) และด้วยสถานการณ์ที่ตัวเองถูกรายล้อมไปด้วยดาวร้ายอย่างคับคั่ง ในที่สุดก็ทำให้ธุรกิจโบรกเกอร์ไปต่อไม่ไหว เพราะคนที่เข้าหามีแต่ราคาคุยไงละคะ
ท้ายที่สุดก็ต้องไปขอร้องให้เจ้าของบริษัทไฟฟ้ายักษ์ใหญ่เข้ามาช่วย ซึ่งกลุ่มทุนดังกล่าวก็จัดการล้างบ้านชุดใหญ่ชนิดที่ไม่ให้เหลือขยะซุกไว้ใต้พรม พร้อมกับสวมธุรกิจใหม่เข้ามาแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบ และตอนนั้นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญของอาจารย์ ป. และสามารถปลดหนี้ได้หมดเกลี้ยง จนผู้คนเล่าขานกันอย่างเมามันว่า อาจารย์ยังเหลือเงินไว้ใช้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านนะจะบอกให้
จุดเปลี่ยนชีวิตตรงนั้นทำให้ค้นพบสัจธรรมด้วยตนเองว่า การเป็นดีลเมกเกอร์น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับชีวิตของตนเอง และในบัดนั้นเองที่ทำให้ชื่อของอาจารย์ ป. เข้าไปมีเอี่ยวหุ้นร้อนหลายตัวที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ (แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ด) และเรื่องดังกล่าวทำท่าจะจบลงแบบไม่มีอะไรให้ติดใจ แต่ล่าสุดก็ดันมีข่าวเข้าไปพัวพันกับหุ้น TIGER ขึ้นมาเสียอย่างนั้นพะยะค่ะ
ตรงนี้แหละที่ทำให้วานนี้ราคาหุ้นวิ่งคึกเป็นม้าพยศ พร้อมขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 2.58 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย และปิดไปที่ระดับ 2.44 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 22.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท พร้อมกับมีเสียงเล่าขานในทำนองที่ว่า ดีลที่แล้วกับ “ทาคูนิ” จบไม่ลง! เพราะดันมีคนเข้ามาเสียบเสียก่อน! เที่ยวนี้เลยหมายมั่นปั้นมือจะดันสุดซอย เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาจากมวลชนขาลุยเจ้าค่ะ
สำหรับไฮไลท์ที่น่าจับตามากสุดเที่ยวนี้คือ คนโบรกเกอร์เข้ามาวางโครงสร้างด้วยตนเอง และคนนี้ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับอาจารย์ ป. เสียด้วย “โมนิก้า” ถึงมองว่า นี่เป็นหนังเรื่องยาวที่ชาวหุ้นต้องติดตาม เพราะมันหมายถึงความมั่งคั่งของสาวกที่ตามก้นอาจารย์ต้อย ๆ และยังเป็นการประกาศศักดาความเป็นดีลเมกเกอร์ขั้นเทพของยุคนี้อีกด้วย เดี๊ยนถึงให้ความสนใจหุ้นเล็กมากเป็นพิเศษ เพราะแต่ละตัวจัดจ้านดีเหลือเกินนะจ๊ะ
งานนี้จะเป็นเรื่อง “จริง” หรือ “เท็จ” ประการใด ก็ให้ทุกคนรับรู้เสียว่า ข่าวลือมักมาเร็วกว่าข่าวจริงเสมอ! และนักลงทุนในตลาดหุ้นก็ชอบข่าวที่ไปพัวพันกับก๊วนใหญ่เสมอ ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ของหุ้น KCC บรรดาผู้เล่นก็ซัดขวากันหนักหน่วง จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 9.50 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 332 ล้านบาท ท่ามกลางข่าวเม้าท์ที่เอ่ยถึงกำไรโตเท่าตัวแบบนี้..มันคือมันนี่เกมที่จะเลิกตอนไหนก็เท่านั้นเองค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” มองหุ้นฟอร์มแรงอย่าง SICT ด้วยใจจดจ่อ! เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.40 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 15.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 321 ล้านบาท มันไม่ได้มาเล่น ๆ แต่มาด้วยกำไรครึ่งปี 65 เท่ากับกำไรทั้งปี 64 บรรดานักคิดคำนวณเลยมองไปถึงขั้นที่ว่า กำไรต่อหุ้นอย่างต่ำปีนี้น่าจะอยู่แถว 0.30 บาท และเมื่อนำไปเทียบกับพีอี 30-40 เท่าในหุ้นที่มาด้วยสตอรี่โกรท เลยได้เป้าแถว 10-12 บาทประมาณนี้แหละ (จริงหรือไม่ต้องดูกันเอาเอง)
สำหรับหุ้นที่มาแรงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และครึ่งชั่วโมงสุดท้ายปาดหน้าเข้าที่ 4 หุ้นที่มีวอลุ่มเทรดมากสุดในตลาด เอ็ม เอ ไอ คงต้องมองไปยังแฮรี่พอตเตอร์ HPT หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.15 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 318 ล้านบาท พร้อมกับปิดไฮของวัน และปิดสูงสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน ก็เป็นอีกเกมที่นักเล่นต้องเพิ่มความไวในการเล่นสักหน่อย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในหุ้นต่ำบาทนะคะ