ส่องหุ้นได้-เสีย หลัง “ตลท.” ปรับเกณฑ์ SET50-SET100

สแกนหุ้นได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์ หลัง “ตลท.” ปรับเกณฑ์ SET50-SET100 ลดเกณฑ์ Turnover Ratio ลงมาจากเดิมเริ่มต้นที่ 5% เป็น 2% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดปัจจุบันที่หุ้นขนาดใหญ่มีแนวโน้ม Turnover ลดลง ชู DELTA, BJC, RATCH, COM7 เด่น


บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดรับฟังความเห็นปรับปรุงเกณฑ์ Turnover ในการคำนวณหุ้นเข้า SET50 และ SET100 จากเพดานที่ 5% ต่อเดือน ลดลงมาเหลือ 2% ต่อเดือน (เริ่มมีผลใช้รอบครึ่งปีแรก 66) ซึ่งจะมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์จากเกณฑ์ดังกล่าว โดยให้กลยุทธ์แนะนำหุ้นเด่นมีโอกาสเข้า SET50 รอบใหม่สูง อย่าง DELTA, BJC (มีโอกาสเข้าทั้ง SET50 และ SET100), RATCH, COM7 (มีโอกาสเข้า SET50) เป็น Toppick สำหรับธีมนี้

ทั้งนี้ ตลท.ระบุว่า เนื่องจากพฤติกรรมหุ้นขนาดใหญ่ ณ ปัจจุบัน มี Turnover หรือสภาพคล่องที่ลดลงมาก อาจส่งผลให้ดัชนี SET50, SET100 ในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงและไม่สะท้อนภาพตลาดที่แท้จริงได้ จึงมีการปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้ดัชนีสะท้อนภาพตลาดได้อย่างเหมาะสม พร้อมกับระดับ Liquidity สอดคล้องกับสภาพของการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดฯ

สำหรับเบื้องต้นฝ่ายวิจัยจึงทำการศึกษาค้นหา “หุ้นได้เสียประโยชน์จากการปรับปรุงเกณฑ์ใหม่” เริ่มจากหุ้นที่ได้ประโยชน์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1.หุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ใน SET50 สภาพคล่องต่ำ (มี Turnover เฉลี่ยต่อเดือนลดลงเหลือเพียง 3-4.5%) เดิมเพดานเกณฑ์ 5% ได้แรงหนุนจากความกังวลว่าจะหลุด SET50 ในอนาคตยากขึ้น อาทิ INTUCH มี Turnover เฉลี่ยต่อเดือน (ช่วง 12/64-8/65) 3.04%, AWC 3.08%, AOT 3.68%, OR 3.74%, GULF 3.93% และ PTT 3.94%

2.หุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนี SET50 รอบถัดไป และในอนาคต แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

2.1.หุ้นขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆใน SET50 สภาพคล่องในการซื้อขายน้อย มีโอกาสกลับมาเข้าคำนวณ SET50 ในรอบครึ่งปีแรก 66 อาทิ DELTA, BJC (เข้าทั้ง SET50 และ SET100) RATCH ขณะที่ RAM มีโอกาสน้อยกว่าเนื่องจากขนาดและสภาพคล่องที่น้อยกว่า และยังใกล้ๆ กับเกณฑ์

2.2.หุ้นสภาพคล่องสูงขึ้นมาจนล่าสุดมี Market Cap. สูงกว่าหุ้นตัวสุดท้ายใน SET50 มีโอกาสกลับมาเข้าคำนวณ SET50 ในรอบครึ่งปีแรก 66 ได้ หากรักษาระดับ Market Cap. ไว้ได้ อาทิ COM7 ขณะที่ CENTEL, KKP มีโอกาสน้อยลงมา เนื่องจากมีขนาดใกล้ๆกับหุ้นที่มี Market Cap. เล็กสุดในดัชนี SET50 ณ ปัจจุบัน

2.3.หุ้นขนาดใหญ่ ในอนาคตอาจได้เข้า SET50 หากมูลค่าซื้อขายสูงขึ้น หรือมี Free float สูงขึ้น อาทิ MAKRO (ปัจจุบันขาดเกณฑ์ Free Float) และ TOA (ขาดเกณฑ์สภาพคล่อง)

ส่วนหุ้นที่อาจถูกกดดันว่าอาจจะหลุด SET50 ในรอบครึ่งปีแรก 66 ดูจากหุ้นที่มี Market Cap. น้อยใน SET50 อาทิ BLA, KCE, SAWAD และ IRPC อย่างไรก็ตามเกณฑ์ตลาดจะใช้ Market Cap. เฉลี่ยในเดือน ก.ย.-พ.ย.65 มาจัดลำดับ เฉพาะฉะนั้นต้องดูลำดับ Market Cap. ณ เวลานั้นอีกที รวมถึงในอนาคตหุ้นขนาด กลาง-เล็กอาจจะมีโอกาสเข้าดัชนี SET50-SET100 ยากขึ้น

Back to top button