ดอลล์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนจากการกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณในเรื่องดังกล่าว ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากมีรายงานว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงในไตรมาส 3


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 122.72 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 122.66 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0073 ฟรังค์ จากระดับ 1.0012 ฟรังค์

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0738 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0792 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5227 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5223 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7129 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7125 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระลอก โดยล่าสุด นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเฟดไม่ควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อันเนื่องจากความวิตกกังวลต่อปฏิกริยาในเชิงลบของตลาด หรือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐ

ส่วนก่อนหน้านี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว

กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นปัจจัยหลักที่หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แม้ว่าทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงก็ตาม โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการร่วงลงของราคาน้ำมัน และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งลดลงจากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2 โดยการชะลอตัวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 จากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2

Back to top button