ราคาทองคำปิดลบหลังดอลล์แข็งค่า

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้บดบังข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำเกินคาดของสหรัฐ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.01% ปิด (13 พ.ย.) ที่ 1,080.90 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.1 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 14.204 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 13.2 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 863.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 19.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 539.25 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยปกติราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม ซึ่งหมายความว่า หากดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เมื่อวัดจากดอลลาร์ เนื่องจากทองคำจะมีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้สกัดการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอลลาร์หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ดังกล่าวบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการร่วงลงของราคาน้ำมัน และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.1% นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนี PPI เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนธ.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ

กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นปัจจัยหลักที่หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แม้ว่าทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.473 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อการใช้จ่าย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ แต่ลดการซื้อรถยนต์ หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน

Back to top button