7 หุ้นกลุ่มแบงก์วิ่ง โบรกอัพเป้าใหม่ รับเศรษฐกิจฟื้น-ดอกเบี้ยขาขึ้น
7 หุ้นกลุ่มแบงก์วิ่ง โบรกปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่ รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ธนาคารต่างๆ ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.65) โดยราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ณ เวลา 10:54 น. นำโดยราคาหุ้น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP อยู่ที่ระดับ 70.75 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 1.80% สูงสุดที่ระดับ 71.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 70.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100.79 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 135.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 1.12% สูงสุดที่ระดับ 136.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 134.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220.13 ล้านบาท
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 149.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 1.01% สูงสุดที่ระดับ 149.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 148.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 489.00 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 17.00 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.19% สูงสุดที่ระดับ 17.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172.35 ล้านบาท
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 106.00 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 0.95% สูงสุดที่ระดับ 106.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 105.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 428.19 ล้านบาท
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 95.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 1.33% สูงสุดที่ระดับ 95.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 94.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160.09 ล้านบาท
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.27 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.79% สูงสุดที่ระดับ 1.27 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36.28 ล้านบาท
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ให้น้ำหนัก “Overweight” หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จะทำให้ธนาคารต่างๆ ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ซึ่งในกรณีที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในช่วงที่เหลือปีนี้ ธนาคารต่างๆ น่าจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนการประกันเงินฝากที่เพิ่มขึ้นได้ง่าย โดยไม่กระทบกับ NIM หรือ Net Interest Margin
โดยได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้นกลุ่มแบงก์ปี 2566 ใหม่ สะท้อนอัตราการเติบโตสูงตามภาวะเศรษฐกิจ ได้แก่ BBL ราคาเป้าหมายใหม่ 159 บาท, KBANK ราคาเป้าหมายใหม่ 198 บาท, KKP ราคาเป้าหมายใหม่ 86.7 บาท, SCB ราคาเป้าหมายใหม่ 152 บาท, TISCO ราคาเป้าหมายใหม่ 107.5 บาท, KTB ราคาเป้าหมายใหม่ 18.8 บาท และ TTB ราคาเป้าหมายใหม่ 1.44 บาท พร้อมแนะนำ KTB ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และมีราคาผันผวนต่ำ และเลือก KBANK จากความสามารถหารายได้เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่เลือก KKP จากการฟื้นตัวของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่าแนะนำซื้อ TISCO ราคาเป้าหมาย 107 บาท คาดผลประกอบการไตรมาสที่ 3/65 จะมีกำไร 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินเชื่อที่ฟื้นตัว จะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น