BAFS บวกแรง 5% รับท่องเที่ยวคึก ดันยอดเติมน้ำมันเครื่องบินพุ่ง แนะซื้อเป้า 35 บ.
BAFS บวกแรง 5% รับท่องเที่ยวคึก ดันยอดเติมน้ำมันอากาศยานพุ่ง โบรกแนะซื้อเป้า 35 บาท โดยประเมินปีนี้คาดปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเกิน 3,000 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 1,638 ล้านลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19 ก.ย.65) ราคาหุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ณ เวลา 15:20 น. อยู่ที่ระดับ 31.25 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 5.04% สูงสุดที่ระดับ 31.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 29.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94.92 ล้านบาท
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เผยจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ส.ค. 2565 สู่ระดับ 1.3 ล้านคน ฟื้นตัวดีตามคาด ล่าสุดนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 4,635,418 ราย
ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย สปป.ลาว สิงคโปร์ และกัมพูชา ทั้งนี้คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 7.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะสร้างรายได้ให้มากกว่า 4.03 แสนล้านบาท
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมากไปหาน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย อาทิ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW สัดส่วนรายได้ 88%, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL สัดส่วนรายได้ 80%, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT สัดส่วนรายได้ 15% และบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ส่วนส่วนรายได้ 5% ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” แนะนำ ERW, CENTEL, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS
ขณะเดียวกันมองว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ BAFS แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35 บาท เช่นกัน ซึ่งได้อานิสงส์จากจำนวนเที่ยวบินและปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น
ด้านหม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BAFS เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 ว่า บริษัทเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยประเมินว่าปีนี้บริษัทจะมีปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเกิน 3,000 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 1,638 ล้านลิตร โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย. 65) มีปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานไปแล้ว 1,217 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ (ก.ค.-ธ.ค. 65) อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยมากขึ้น และสายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้เป็นเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง มีการปลดล็อกมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 8-9.6 ล้านคน เติบโต 200% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 4 แสนคน และในปี 2566 จะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน หรือประมาณ 50% ของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 40 ล้านคน
หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่จะทำให้บริษัทหยุดขาดทุนจะต้องอยู่ที่ 8.3 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการเติมน้ำมันเกินอัตราดังกล่าวแล้ว โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทให้บริการเติมน้ำมันเกือบ 9 ล้านลิตรต่อวัน และเชื่อว่าเดือนกันยายนนี้จะยิ่งเติบโตขึ้นอีก ขณะที่ปี 2566 ประเมินว่าปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้อีกประมาณ 40% มาอยู่ที่ 4,000-4,200 ล้านลิตร หรือฟื้นตัว 68% จากช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19
ด้านบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่ง BAFS ถือหุ้นในสัดส่วน 75% นั้น ประเมินว่าปีนี้จะมีปริมาณการขนส่งน้ำมันทางท่อที่ 502 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 330 ล้านลิตร เนื่องจากปีนี้มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และในปี 2566 จะเติบโตจากปี 2565 อีก 61% มาอยู่ที่ 807 ล้านลิตร อีกทั้งประเมินว่ารายได้ของบริษัทจะกลับคืนสู่ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ได้ในปี 2567 ซึ่งเป็นปีที่อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวกลับมาเทียบเท่าหรือเติบโตเกินกว่าช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ด้วย