ทุบหุ้นร้อน!
หากมองตามพล็อตเรื่องที่เกิดขึ้นของตลาดหุ้นไทยจะเห็นว่า แนวรับสำคัญซึ่งยังทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมยังอยู่ที่บริเวณ 1,600 จุด
หากมองตามพล็อตเรื่องที่เกิดขึ้นของตลาดหุ้นไทยจะเห็นว่า แนวรับสำคัญซึ่งยังทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมยังอยู่ที่บริเวณ 1,600 จุด แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยลงไปถึงระดับดังกล่าวสักที! เพราะมีแรงซื้อเข้ามารับหุ้นที่บริเวณ 1,610 จุดสองครั้งสองคราวด้วยกัน และประเด็นดังกล่าวก็ทำให้เชื่อว่า การทรุดตัวรอบที่สามก็คงไม่ต่างอะไรไปจากสองครั้งก่อนหน้านี้ จึงไม่มีอะไรต้องกังวลจนทำอะไรไม่ถูกนะนายจ๋า!
ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยยังดูดีอยู่ และการที่ดัชนีออกลูกแทงกั๊กเหมือนลงไม่สุดสักที ก็เป็นการยืนยันถึงแรงช้อนหุ้นยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้คนที่คิดจะขายหุ้นเกิดอาการลังเลใจ และเลือกใช้วิธีดูลาดเลารอบด้านน่ากลัวขนาดไหน? ซึ่งเป็นยุทธวิธีพื้น ๆ ที่ม้าแก่ชำนาญทางเข้าใจเป็นอย่างดี และใช้จังหวะดังกล่าวเล่นรอบอย่างสบายใจเฉิบไงละคะ
วันนี้ถึงต้องถามว่า การแกว่งตัวไปมาของดัชนีตลอดทั้งวันมีประเด็นไหนที่ต้องตามติดเป็นพิเศษไหม? “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มีเรื่องต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดแน่นอน! เพราะการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,631.57 จุด บวกไป 1.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.01 หมื่นล้านบาท มันได้รับแรงกดดันจากหุ้นบางตัวอย่างมีนัยสำคัญ และหุ้นเหล่านั้นก็อยู่ในทิศทางขาลงเสียด้วย จึงกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนได้เม้าท์แตกอีกรอบเจ้าค่ะ
โดยเฉพาะการร่วงหล่นของปูนใหญ่ SCC ซึ่งไม่มีทีท่าจะหยุดลงเสียที น่าจะสะท้อนถึงความกังวลที่มีต่ออนาคตของบริษัทจะโตอย่างไร? เพราะสิ่งที่ได้ยินมาจากพวกแมงลือเขาเม้าท์มีแต่ กำไรหด..กำไรหด “โมนิก้า” เลยเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นซึมลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 337 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.67 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 12 เท่าแบบนี้..แสดงว่า ดอกนี้หนักจริงนะจ๊ะ
อีกรายที่หนักสุด ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CBG แบบไม่ลังเลใจ เพราะการทรุดตัวลงมาต่ำร้อย และไหลลงมาเรื่อย ๆ ท่ามกลางแรงขายที่ยังหนาแน่น มันคือภาพที่บ่งบอกถึงศักยภาพในการทำกำไรคงมีปัญหาบางอย่าง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นไหลลงมาอีก ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 93.50 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 37 เท่าแบบนี้..ไหวป่าวคะ
ส่วนรายที่ทำให้อึ้งหนักเกินคำบรรยาย และยังทำให้เดี๊ยนงงงวยเป็นอย่างมาก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นถุงมือยาง STGT เพราะแรงเทขายไม่เบาลงเลย ทั้งที่วันนี้หุ้นเทรดบน PE 4.50 เท่า หรือจะมองไปข้างหน้าอีกนิดหนึ่งก็จะเห็นว่า กำไรต่อหุ้นปี 65 น่าจะอยู่ราว ๆ 1.10 บาทบวกลบ 10% เมื่อนำไปคิดบนพีอี 15 เท่า หุ้นน่าจะยืนแถว 16 บาทได้สบาย ๆ แต่วานนี้หุ้นกลับยืนปิดที่ 12.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 278 ล้านบาทเฉยเลยจ้าแม่!
สำหรับในรายของหุ้นน้องใหม่ไฟแรงอย่าง CH ซึ่งโดนรินขายออกมาเรื่อย ๆ ก็เป็นเกมปกติของหุ้นที่มาด้วยโกรทสตอรี่ จึงเข้ามาเล่นเก็งข่าวกำไรโตกันอย่างเมามัน แต่พอถึงจุดที่มีสิทธิ์โดนติดแคชเท่านั้นแหละ! บรรดาเดย์เทรดก็เผ่นป่าราบกันเป็นแถว “โมนิก้า” จึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นลงมาปิดที่ 4.76 บาท ลบไป 0.44 บาท หรือลงไป 8.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 414 ล้านบาท เพราะจุดนี้หุ้นเทรดบน PE 36 เท่า จึงมีสิทธิ์ที่จะโดนขายอีกนะคะ
ประเด็นข้างต้นคล้ายกับสถานการณ์ของ RBF เพราะเป็นหุ้นที่มาด้วยเรื่องเติบโตเหมือนกัน พ่วงด้วยข่าวพาร์ตเนอร์เป็นแรงเสริม แต่เผอิญตัวเลขกำไรยังวิ่งตามไม่ทัน จึงมีแรงขายรินออกมาเรื่อย ๆ จนหุ้นลงไปทำโลว์ที่ระดับ 11.40 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นไปถึง 14.50 บาท ต่อจากนั้นก็แกว่งตัวออกด้านข้าง ก่อนจะร่วงผล็อยลงมาปิดที่ 12.90 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 52 เท่าแบบนี้..น่าเสียวไส้อยู่เหมือนกันจ้า!
ในเมื่อเม้าท์ถึงกำไรวิ่งตามไม่ทัน แต่แนวโน้มยังโตได้ตามแผน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น PROEN เพื่อชี้ให้เห็นการเทรดบน PE 58 เท่า มันคือจุดล่อแหลมที่มีโอกาสโดนขายได้ทุกเมื่อ เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ 6.55 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 7.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 141 ล้านบาท มันทำให้ฐานแนวรับเก่าที่เล่นกันเป็นประจำ 6 บาทน่าสนใจขึ้นมาทันทีนะออเจ้า!