แรงซื้อ “แบงก์-พลังงาน” ดัน SET ปิดเช้าพุ่ง 13 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น เป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกือบ 200 จุด หรือ 0.64% ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้สดใส ประกอบกับตลาดหุ้นไทยก่อนหน้านี้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากเกือบ 2% จึงเป็นจังหวะการฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นมาของตลาดรองนี้น่าจะมีอัพไซด์ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ สำหนับแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดว่า ตลาดฯ น่าจะยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ โดยให้แนวรับที่ 1,635 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด

ด้าน นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 10 จุดตามทิศทางตลาดหุ้นโลก และรับอานิสงส์หุ้นกลุ่มพลังงานทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายในเดือน ส.ค.และก.ค. ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการคลายล็อกดาวน์เมืองเฉิงตูของจีน

นอกจากนี้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้าหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งสู่ระดับ 3.518% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 จากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ให้แนวรับไว้ที่ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,655-1,660 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,141.65 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,827.17 ล้านบาท ปิดที่ 618.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

TU มูลค่าการซื้อขาย   888.03 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 836.19 ล้านบาท ปิดที่ 90.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 813.26 ล้านบาท ปิดที่ 108.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท