เด้งสั้น ลงลึก
ก่อนจะแสดงความยินดีกับนักเล่นที่สามารถฉกฉวยโอกาสเล่นสั้นอย่างเป็นทางการ และโกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำในช่วงเวลาข้ามคืน
ก่อนจะแสดงความยินดีกับนักเล่นที่สามารถฉกฉวยโอกาสเล่นสั้นอย่างเป็นทางการ และโกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำในช่วงเวลาข้ามคืน “โมนิก้า” ขอให้นักเล่นมองดูภาพใหญ่ของดัชนีดาวโจนส์ที่ไหลลงต่อเนื่อง ทั้งที่กลางเดือน ส.ค. เด้งขึ้นไปถึง 34,200 จุด แต่วันนี้กลับนอนจุมปุ๊กอยู่ที่ระดับ 31,000 จุด โดยใช้เวลาแค่เพียงเดือนเศษ ๆ ร่วงลงไปถึง 3,100 จุดแบบนี้..สถานการณ์มันไม่โอเคนะคะ
ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่ตื่นเต้นกับสถานการณ์รายวันสักเท่าไหร่ เพราะภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงคลุกฝุ่น และยังได้รับแรงกดดันจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่เนือง ๆ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นพยายามทำตัวให้ยืดหยุ่นมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราต้องเจอกับ “เฟดเอฟเฟกต์” อีกสองดอกด้วยกัน และยังต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรระยะสั้นระหว่างที่ดัชนีกำลังยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมไงละคะ
ฉะนั้นการที่ดัชนีเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,638.59 จุด บวกไป 7.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.51 หมื่นล้านบาท จึงส่อไปในลักษณะ “เด้งสั้น ลงลึก” และถ้ามองให้ลึกลงไปถึงเรื่อง “อัพไซด์” จะเห็นว่า มีไม่มากสักเท่าไหร่! ส่วนฟากฝั่งของ “ดาวน์ไซด์” กลับมีเยอะกว่าเห็น ๆ ส่งผลให้ยุทธวิธีในการเล่นต้อง “เข้าเร็วออกเร็ว” เพื่อความคล่องตัว เพราะหนทางที่ดัชนีจะขึ้นสวย ๆ มักอยู่ในช่วงเดือน 11-12 (ตามไซเคิลเทคนิค)..จริงหรือไม่ ลองไปย้อนดูกันนะจ๊ะ
เหมือนกับกรณีของหุ้นสายการบินสีแดง AAV ทำอย่างไรก็วิ่งไม่ผ่าน 3 บาทสักที! เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับจับสังเกตอาการของหุ้นมาเป็นพิเศษ เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.90 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253 ล้านบาท มันเกี่ยวข้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเดือนทะลุ 1.20 ล้านคนไปแล้ว “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า สตอรี่อันนี้จะช่วยดันหุ้นให้ติดลมบนได้อ๊ะป่าว?
ส่วนกรณีของหุ้นปลากระป๋อง TU ก็มีสตอรี่บริษัทลูกที่ทำอาหารแมวเข้ามาเป็นตัวบิ้วอารมณ์ “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการนับหนึ่งไฟลิ่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้แวลูของตัวแม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และต้องลุ้นกันต่อไปว่า สตอรี่ดังกล่าวจะช่วยดันหุ้นทะลุแนวต้าน 18 บาทได้ไหม? เพราะการขึ้นทดสอบเที่ยวนี้เป็นรอบที่ 3 แล้วเจ้าค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลือบมองหุ้น KEX แบบไม่ลังเลใจ เพราะหุ้นเด้งขึ้นแรงได้ไม่ทันไร สุดท้ายก็โดนถล่มราบเป็นหน้ากลอง เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้ราคาหุ้นลงมายืนที่ระดับ 20.50 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 233 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ผลงานในงวดนี้ก็คงคว้าน้ำเหลวอีกตามเคย เพราะการแข่งขันทางด้านสงครามราคายังไม่จบน่ะซี
เรื่องดังกล่าวคล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้น MENA ซึ่งไล่ราคากันอย่างหนักหน่วง จนพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.59 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท อาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และคาดหวังถึงการแรลลี่จะเกิดขึ้นแบบรัว ๆ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นเสียด้วย แต่ราคาหุ้นก็ปักหัวลงทันทีในวันถัดมา จึงเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่า เรื่องจะออกมาแบบไหน?..อิอิอิ
ไหน ๆ ก็มาสายลุยกันทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นปั๊มน้ำมัน SUSCO กันสักหน่อย! เพราะเที่ยวนี้ไล่หุ้นยาวกว่า 3 ครั้งก่อน พร้อมกับมีการเม้าท์ถึงแก๊งวีไอเข้ามาข้องแวะแบบนี้กระมัง! วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปถึง 4.90 บาท ต่อจากนั้นโรยตัวลงมาปิดที่ระดับ 4.52 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 7.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 657 ล้านบาท ก็เป็นเกมวัดใจว่า วันนี้ยังจะ “จับมือ” เพื่อเดินไปด้วยกัน หรือต้องการ “สลัดมือ” เพื่อความสบายใจเจ้าค่ะ
สำหรับรายที่มีอาการหนักสุดเกินเยียวยา “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น ALL เพื่อชี้ให้เห็นถึงความน่าสะพรึงของหุ้นที่มีปัญหาหลังบ้าน แถมมีแต่เรื่องประเด็นที่ชุมชนปากสุนัขนำมานินทาลับหลังกันอย่างสนุกปาก ล้วนเกี่ยวข้องกับอนาคตของบริษัทมีความคลุมเครือในทุกด้าน เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นทรุดลงมาปิดที่ 0.85 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 579 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low แบบนี้..น่ากลัวสุด ๆ นะจะบอกให้