ลุ้นกลุ่ม “โรงแรม-การบิน” วิ่งต่อ! หลัง “ททท.” หนุนท่องเที่ยว-ต่างชาติอยู่ไทยนานขึ้น
ลุ้นหุ้น “โรงแรม-การบิน” วิ่งต่อ! หลังททท.หนุนท่องเที่ยว สนับสนุนโครงการ “ลดทั่วฟ้า บินทั่วไทย” พ่วง ครม. ไฟเขียวต่างชาติอยู่ไทยได้นานขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ยังทุ่มงบถึง 150 ล้านบาท สนับสนุนโครงการ “ลดทั่วฟ้า บินทั่วไทย” เพราะนอกจากจะทำให้เกิดกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยเพิ่มอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ของสายการบินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ทาง ททท.ยังกระตุ้นการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง อาทิ ค่าที่พัก ค่าเดินทางท้องถิ่น ค่าอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึก ตลอดทั้งค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดประมาณ 2,000 ล้านบาท ในช่วงการดำเนินโครงการนี้
“ช่วยหนุนสร้างรายได้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย 656,000 ล้านบาท จากเป้าหมายนักท่องเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้ง” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
โดยร่างประกาศฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาในการพำนักในราชอาณาจักรสำหรับคนต่างด้าวบางจำพวกที่เดินทางเข้าประเทศไทย ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66 ดังนี้
1.คนต่างด้าวที่ขอรับการตรวจลงตรา Visa on Arrival ขยายระยะเวลาจากเดิมพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน
2.คนต่างด้าวผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศที่รัฐบาลของประเทศนั้นได้ทำความตกลงระหว่างกันกับรัฐบาลไทย กรณีการยกเว้นการตรวจลงตรา ขยายจากเดิมไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน
3.คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวซึ่งได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.30 ซึ่งเป็นมาตรการที่ไทยให้ฝ่ายเดียว ขยายจากเดิมไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน
นางสาวไตรศุลี กล่าวอีกว่า การออกประกาศกระทรวงมหาดไทยข้างต้นนี้ สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ครั้งที่ 11/65 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการพำนักของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่บริษัท หลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้รัฐบาลคาดไตรมาส 4/65 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ระดับ 1.5 ล้านคน/เดือน ซึ่งจะทำให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านคน/ปี ขณะที่คาดว่าในปี 66 การท่องเที่ยวไทยตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 32 ล้านคน/ปี คิดเป็นราว 80% ของช่วงก่อนเกิด COVID-19 มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้าที่ราว 50-60% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว-สายการบิน ได้แก่ AOT, MINT, CENTEL, ERW, SHR, VRANDA, AAV และ BA ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง
จากวานนี้ที่ปิดตัวในแดนบวกอย่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 73.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.64 พันล้านบาท
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 28.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31พันล้านบาท
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 47.75 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 3.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275 พันล้านบาท
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 4.22 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 6.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 227 ล้านบาท
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 3.44 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46 ล้านบาท
บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 7.15 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 ล้านบาท
บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 2.90 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 4.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253 ล้านบาท
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 11.30 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77 ล้านบาท