พาราสาวะถี

อีกไม่กี่อึดใจชะตากรรมของผู้นำเผด็จการก็จะได้รับการชี้ขาดจากศาลรัฐธรรมนูญ แนวโน้มแวดวงต่อรองล่าสุด พบว่าโอกาสได้ไปต่อมากกว่าจะไม่รอด


อีกไม่กี่อึดใจชะตากรรมของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็จะได้รับการชี้ขาดจากศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มแวดวงต่อรองล่าสุด พบว่าโอกาสได้ไปต่อมากกว่าจะไม่รอด แต่บริบทหลังจากที่ได้รับการอุ้มสมให้กลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแล้วจะเปลี่ยนไป ไม่ได้ฮึกเหิม ห้าวหาญ ต้องการที่จะไปต่อยาว ๆ เหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากทีมกุนซือวิเคราะห์ทิศทางและแนวโน้มทางการเมือง ถ้าเลือกวางมือเสียตั้งแต่เที่ยวนี้จะสมศักดิ์ศรีและสง่างาม ขืนดันทุรังไปต่อการันตีได้ว่าจบแบบศพไม่สวย

ต้องรอดูบทสรุปของคำวินิจฉัยที่จะออกมา เพราะมันไม่ใช่แค่ว่าคนอยากอยู่ยาวจะได้ไปต่อหรือไม่เท่านั้น หากแต่การตีความที่เกิดขึ้นมันมีผลผูกพันเป็นบรรทัดฐานสำหรับคนอื่น ๆ ที่จะขึ้นเป็นผู้นำประเทศในอนาคตด้วย ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจประสบปัญหาความเชื่อถือหด ศรัทธาหาย ทำให้เดินต่อไปได้ยาก ส่วนบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเวลานี้ต่างขมีขมันเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ไล่เรียงดูกันตามรายภาครายจังหวัด นับตัวเลขดีดลูกคิดมีบางพรรคถึงกับเหนื่อยใจ

สนามแข่งขันที่มีเดิมพันสูงและจะเบียดช่วงชิงคะแนนกันชนิดหายใจรดต้นคอ คือ พื้นที่ กทม.และภาคใต้ โดยที่ในภาคอีสานและภาคเหนือตอนบนนั้น ถูกมองว่าน่าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์อย่างที่พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายไว้ ว่ากันสำหรับเมืองหลวง ถ้าโจทย์วันนี้คือคนกรุงเทพฯ ต้องการชีวิตที่ดีขึ้น การมีผู้ว่าฯ กทม.ที่ชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ ดังนั้น การเลือกพรรคการเมืองเพื่อความหวังเข้าไปเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจึงมีความสำคัญ

หนก่อนเห็นได้ชัดคนกรุงเทพฯ เกิดอาการเบื่อประชาธิปัตย์ แต่ก็อยากให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้ไปต่อ จึงมีการเลือก ส.ส.ของพรรคสืบทอดอำนาจกันเข้ามาชุดใหญ่ ทว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะคนเมืองหลวงเกิดอาการเอือมระอากับท่านผู้นำและไม่ต้องการให้พรรคแกนนำรัฐบาลได้กลับเข้าสู่อำนาจอีก ขณะที่พรรคเก่าแก่ก็มีตัวเลือกที่ไม่โดนใจ หรือจะว่าไปคือตกยุคไปแล้ว จึงเหลือเพียงพรรคนายใหญ่และก้าวไกลที่จะเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับคน กทม.

อย่างไรก็ตาม บรรดาคอการเมืองต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน วันนี้แม้จะเข้าใจและมองข้ามคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว หากพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯ ที่ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร อาจเป็นปัจจัยให้คนกรุงเทพฯ ตัดสินใจไม่เลือก ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อมือ หรือเห็นว่าอาวุโสยังไม่ได้ แต่เมื่อได้ชื่อว่าเป็นสายตรงของคนแดนไกลคนเมืองหลวงย่อมไม่ปลื้ม รวมไปถึงช่วงเลือกตั้งก็จะมีการโหมโจมตีในประเด็นนี้ ซึ่งต้องเข้าใจว่าคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ ทุกครั้งที่มีเลือกตั้งมักจะใช้กระแสเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ

เมื่อเป็นเช่นนั้น แนวโน้มที่พรรคก้าวไกลจะได้ ส.ส.ใน กทม.มากขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมาจึงเป็นไปได้สูง จุดอ่อนไหวที่ถูกโจมตีมาตลอดคือปมสถาบัน ถ้าไม่แสดงความเห็นหรือชูนโยบายที่ล่อแหลม คน กทม.วัยกลางคนขึ้นไปก็พร้อมที่จะให้เป็นทางเลือกหนึ่ง ขณะที่คนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคการเมืองนี้ แต่มีพรรคที่ต้องจับตามองจะขอมาแจ้งเกิดในสนามเมืองหลวงด้วยนั่นก็คือ ภูมิใจไทย

ตัวเลือกจากคนของพรรคมีไม่มากแต่จะใช้วิธีการตกปลาในบ่อเพื่อน ซึ่งหนีไม่พ้นทั้งจากพรรคสืบทอดอำนาจและพรรคเก่าแก่ เหตุผลสำคัญที่ อนุทิน ชาญวีรกูล อยากได้ ส.ส.ในเมืองหลวงทั้งที่ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เป็นเพราะหากเกิดจับพลัดจับผลูวาสนาถึงขั้นได้ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ แล้ว พรรคไม่มี ส.ส.ใน กทม.และปริมณฑล มันจะส่งผลถึงเสถียรภาพต่อตำแหน่งในอนาคต ดังนั้น จึงขอปักธงให้ได้แม้จะไม่กี่เก้าอี้ก็ตาม ตามข่าวที่มีมาคาดว่าอีกไม่นานจะได้เห็นโฉมทีม กทม.ของพรรคเสี่ยหนูแน่นอน

สำหรับพื้นที่ภาคใต้นั้น อย่างที่รู้กันจะเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดของ 3 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรคสืบทอดอำนาจ โดยพรรคแกนนำรัฐบาลอาจอุ่นใจที่ว่ามี ส.ส.อยู่เวลานี้ 18 ที่นั่ง แต่สถานการณ์ในพื้นที่ต้องยอมรับว่ามีจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งจะกลายเป็น ส.ส.สอบตกในอนาคตอันใกล้ จึงทำให้พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ต้องเร่งทำการสำรวจความคิดเห็นเพื่อประเมินว่าจะยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมสู้ศึกหนหน้าหรือไม่ หรือจำเป็นที่จะต้องปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อที่จะใช้สร้างความได้เปรียบก่อนเลือกตั้ง

แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการลงทุนที่สูงเกินไปเกรงว่าจะไม่คุ้มค่าจึงไม่กล้าเสี่ยงเดินเกมนี้ ขณะที่พรรคเก่าแก่ก็มุ่งมั่นว่าจะทวงบัลลังก์แชมป์กลับคืนมา ทว่ายังมีขวากหนามสำคัญ คือ พรรคเพื่อนรักเพื่อนแค้นอย่างภูมิใจไทย ที่นอกจากจะโชว์ผลงานได้เข้าตาคนใต้ มีกลไกในการสร้างคะแนนนิยมอย่างต่อเนื่องแล้ว หัวคะแนนสำคัญในหลายพื้นที่ก็ถูกพลังดูดไปเป็นมือไม้ทำงานให้พรรคคู่แข่งสำคัญไปแล้ว เราจึงได้เห็นการห้ำหั่นกันผ่านงานในสภา และมีบรรดาลิ่วล้อของสองพรรคตอบโต้กันไปมาอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน

แม้ว่าภาคใต้จะแตกต่างจาก กทม. แต่พรรคก้าวไกลก็ยังมีความหวังว่าในบางเขตบางพื้นที่ผู้สมัครของตัวเองจะได้รับเลือกตั้งเข้ามา ถ้าเป็นไปอย่างที่ ชวน หลีกภัย ว่า ภาคใต้ไม่มีการซื้อเสียง ก็มีความเป็นไปได้ที่คนของก้าวไกลจะสามารถปักธง ส.ส.เขตในพื้นที่ได้ โดยแกนนำของพรรคก็หวังเพียงแค่ว่าถ้าได้ 1 เก้าอี้ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แล้ว ขณะที่พื้นที่ปลายดามขวาน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น หนีไม่พ้นการช่วงชิงของตัวเลือกเก่า ๆ แต่จะคละเคล้ากันหลายพรรคการเมือง

มองความเคลื่อนไหวการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งแบบนี้ อย่าคิดว่าฟุ้งซ่านมันจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ได้อย่างไร เพราะสวนทางกับที่ กกต.ได้วางไทม์ไลน์เลือกตั้ง หากอยู่ครบวาระ คือ จะมีเลือกตั้งกันในเดือนพฤษภาคมปีหน้า แต่สถานการณ์ทางการเมืองมันไม่เอื้อที่จะให้ลากยาวกันไปถึงขนาดนั้น เอาแค่พ้นวันที่ 30 กันยายนนี้ไป ก็จะได้เห็นกันว่าทิศทางของการเมืองนั้นจะเดินกันอย่างไร โดยเฉพาะผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจน่าจะมีคำตอบเรื่องอนาคตของตัวเองที่ชัดเจนขึ้น

Back to top button