BA-AAV วิ่งคึก! รับมาตรการรัฐกระตุ้นท่องเที่ยว หนุนผู้โดยสารฟื้น

BA-AAV วิ่งคึก! ขานรับ “รัฐ” ออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวต่อเนื่อง หนุนผู้โดยสารฟื้น จับตาครึ่งหลังปี 65 ฟื้นตัวดี ลุ้นตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยปี 65 ขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านคน/ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ย.65) ล่าสุด ณ เวลา 14:52 น. ราคาหุ้นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA อยู่ที่ระดับ 11.50 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.60% สูงสุดที่ระดับ 11.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.57 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ระดับ 2.90 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 2.84% สูงสุดที่ระดับ 2.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 53.49 ล้านบาท

โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ยังทุ่มงบถึง 150 ล้านบาท สนับสนุนโครงการ “ลดทั่วฟ้า บินทั่วไทย” เพราะนอกจากจะทำให้เกิดกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยเพิ่มอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ของสายการบินเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อีกทั้งททท.ยังกระตุ้นการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง อาทิ ค่าที่พัก ค่าเดินทางท้องถิ่น ค่าอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึก ตลอดทั้งค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดประมาณ 2,000 ล้านบาท ในช่วงการดำเนินโครงการนี้

ขณะเดียวกันนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ

โดยร่างประกาศฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาในการพำนักในราชอาณาจักรสำหรับคนต่างด้าวบางจำพวกที่เดินทางเข้าประเทศไทย ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66

บล.ไอร่า มีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้รัฐบาลคาดไตรมาส 4/65 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ระดับ 1.5 ล้านคน/เดือน ซึ่งจะทำให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยปี 65 ขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านคน/ปี ขณะที่คาดว่าในปี 66 การท่องเที่ยวไทยตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 32 ล้านคน/ปี คิดเป็นราว 80% ของช่วงก่อนเกิด COVID-19 มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้าที่ราว 50-60% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว-สายการบิน ได้แก่ AOT, MINT, CENTEL, ERW, SHR, VRANDA, AAV และ BA ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง

ส่วนบล.ดาโอ ยังคงแนะนา “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 66 ที่ 3.30 บาท เดิม 3.10 บาท ยังอิง PBV ใกล้เคียงเดิมที่ 3.6 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่มสายการบินในภูมิภาค  ทั้งนี้มีมุมมองเป็นกลางจาก group conference call (20 ก.ย.65) โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) จำนวนผู้โดยสารฟื้นตัวได้ดีตามคาด โดยเดือน ก.ค.-ส.ค.65 ดีขึ้นเป็น 8 แสนคน และ 1 ล้านคน ทำให้ประเมินจำนวนผู้โดยสารไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 2.5-2.8 ล้านคน ดีขึ้นจากไตรมาส 2/65 ที่ 1.7 ล้านคน ส่วน load factor จะดีขึ้นเป็น 86%-88% จากไตรมาส 2/65 ที่ 75% โดยได้ผลบวกจากผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวเร็วขึ้น

รวมทั้ง 2) จำนวนเครื่องบินที่จะให้บริการในไตรมาส 3/65 ถึงไตรมาส 4/65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 33 ลำ และ 43 ลำ โดยไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 25 ลำ ส่งผลให้อัตราการใช้งานเครื่องบินที่สูงขึ้น และ 3) AAV วางแผนจะเริ่มเก็บ fuel surcharge สำหรับเที่ยวบินในประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.65 ซึ่งจะช่วยชดเชยต้นทุนค่าใช้จ่ายน้ำมันได้ดีขึ้น ยังประเมินผลการดำเนินงานปกติปี 65 จะขาดทุนที่ 7 พันล้านบาท โดยงวดครึ่งหลังปี 65 มีผลขาดทุน 4.5 พันล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานปกติไตรมาส 3/65 จะขาดทุนลดลงเป็น 1.5-1.8 ล้านบาท (ไตรมาส 2/65 ขาดทุน 2.3 พันล้านบาท) จากจำนวนผู้โดยสารที่ฟื้นตัวเร็วขึ้น

ทั้งนี้ยังประเมินจำนวนผู้โดยสารปี 65 ที่ 9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 207% เมื่อเทียบจากปีก่อน (ผู้โดยสารครึ่งแรกปี 65 อยู่ที่ 3.1 ล้านคน) ส่วนปี 66 ยังประเมินจะเริ่มกลับมามีกำไรได้ จากจานวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มเป็น 16 ล้านคน ราคาหุ้น outperform SET +15% ใน 6 เดือน จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้นดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

โดยประเมินว่าราคาหุ้นจะยังคง outperform SET ได้จากผลการดาเนินงานปกติที่ดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 3/65 และไตรมาส 4/65 ที่จะได้ผลบวกจากปัจจัยฤดูกาล, ผู้โดยสารอินเดียและอาเซียนยังเติบโตดี ส่วนผู้โดยสารญี่ปุ่น และฮ่องกง จะดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางมากขึ้น ขณะที่คาดหวังว่าจีนจะเริ่มทยอยผ่อนคลายการเดินทางในช่วงครึ่งหลังปี 66

Back to top button