หุ้นโรงกลั่น ดัก (เก็บ) ช่วงพักฐาน
ช่วงนี้เห็นตัวเลข “ค่าการกลั่นสิงคโปร์” ติดลบติดต่อมาหลายวันทำการ ทำเอาแฟนคลับหุ้นโรงกลั่น “เสียวสะท้าน” กันถ้วนหน้า..
ช่วงนี้เห็นตัวเลข “ค่าการกลั่นสิงคโปร์” ติดลบติดต่อมาหลายวันทำการ ทำเอาแฟนคลับหุ้นโรงกลั่น “เสียวสะท้าน” กันถ้วนหน้า..แถมราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนตอนนี้ จึงเกิดคำถามขึ้นในอกในใจกันว่า..อารมณ์แบบนี้ “หุ้นโรงกลั่น” ยังลงทุนหรือเก็งกำไรได้อยู่หรือไม่..!?
ข้อมูลจาก “สุวัฒน์ สินสาฎก” กรรมการผู้จัดการ FSSIA หรือที่ FC เรียกขานว่า “อาจารย์หมู” นักวิเคราะห์อาวุโสผู้รอบรู้ด้านพลังงาน สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์โรงกลั่นไว้อย่างน่าสนใจว่า “ค่าการกลั่นอาจปรับตัวลง” ได้อีกนะ..
แต่แม้ว่าค่าการกลั่นสิงคโปร์ช่วงนี้จะติดลบมากกว่า 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ค่าการกลั่นของไทยยังมีตัวเลขเป็นบวก 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ด้วยเหตุที่สิงคโปร์ มีแก๊สโซลีน ค่อนข้างเยอะ..คิดเป็นสัดส่วน 30% และมีน้ำมันเตาสัดส่วน 20-30% แต่ไทยของเรามีสัดส่วนแก๊สโซลีนประมาณ 20% และมีน้ำมันเตาประมาณ 7-8% น้อยกว่า 3-4 เท่า
ปัจจุบันค่าการกลั่นน้ำมันเตาติดลบ 25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จึงทำให้ค่าการกลั่นสิงคโปร์เฉลี่ยติดลบนั่นเอง..
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “ค่าการกลั่นสิงคโปร์” ปรับลงอีกกว่า 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จึงส่งผลด้านจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน เนื่องจากกังวลว่าผลประกอบการช่วงไตรมาส 3/2565 อาจออกมาไม่สู้ดีนัก..!?
ทำให้ช่วงนี้ “หุ้นโรงกลั่น” จึงอยู่ในช่วงปรับตัวลง หลังจากก่อนหน้านี้ราคามีการปรับขึ้นสูงค่อนข้างมากแล้ว จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ทรงตัวสูง
ไม่ว่าจะหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ราคาปรับขึ้นค่อนข้างมาก..
ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงของการปรับฐาน..!! ระยะสั้นควร “เลี่ยง” หุ้นโรงกลั่นกันไปก่อน
แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันยังไม่ปรับลดลงมากนัก และค่าการกลั่นอาจอ่อนตัวระยะสั้น..
ดังนั้นหากมองเชิงโอกาส ช่วงนี้นักลงทุนสามารถ “รอดักเก็บ” ช่วงราคาหุ้นปรับลดลงได้
พูดถึง “หุ้นโรงกลั่น” ก็นึกถึงหุ้นถ่านหินอย่างบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ขึ้นมาทันที เพราะราคาถ่านหินเคลื่อนไหวไม่ต่างจากน้ำมัน
ราคาหุ้น BANPU ดูเหมือนกำลัง “ปรับฐาน” เช่นกัน หลังราคายกตัวขึ้นมาจาก 12 บาท ขึ้นไปถึง 15 บาท
แต่ถ้ามองเป็นโอกาสเมื่อราคาลงที่ระดับ 13.20 บาท ก็สามารถเข้า “ดักซื้อ” ได้เช่นกัน
…อิ อิ อิ…