สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ก.ย. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ก.ย. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อนอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐที่หดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 นั้น ถ่วงตลาดลงด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,590.41 จุด ร่วงลง 486.27 จุด หรือ -1.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,693.23 จุด ร่วงลง 64.76 จุด หรือ -1.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,867.93 จุด ร่วงลง 198.88 จุด หรือ -1.80%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุที่ดิ่งลงเกือบ 6% ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซนบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางต่าง ๆ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 390.4 จุด ร่วงลง 9.36 จุด หรือ -2.34% และร่วงลง 4.4% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,783.41 จุด ร่วงลง 135.09 จุด หรือ -2.28%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,284.19 จุด ร่วงลง 247.44 จุด หรือ -1.97% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,018.60 จุด ร่วงลง 140.92 จุด หรือ -1.97%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) แตะระดับปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษได้เปิดเผยแผนการปรับลดภาษี และแผนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายหุ้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า รัฐบาลอังกฤษจะต้องกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,018.60 จุด ร่วงลง 140.92 จุด หรือ -1.97%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกที่เพิ่มขึ้นว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และจะกระทบต่อความต้องการพลังงาน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 4.75 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 4.31 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 86.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (23 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตระยะสั้นพุ่งขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 25.5 ดอลลาร์ หรือ 1.52% ปิดที่ 1,655.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. 2563 และร่วงลง 1.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 70.7 เซนต์ หรือ 3.6% ปิดที่ 18.91 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 47.3 ดอลลาร์ หรือ 5.22% ปิดที่ 858.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 104.50 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 2,070.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (23 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1.65% แตะที่ระดับ 113.1890
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 143.35 เยน จากระดับ 142.41 เยน, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9828 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9787 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3604 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9674 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9833 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0847 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1251 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6517 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6640 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการวันที่ 23 ก.ย. เนื่องในวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น