ADVANC-TRUE-DTAC ตั้งวอร์รูมดูแลเครือข่าย รับมือพายุ “โนรู”
3 ค่ายมือถือ ADVANC-TRUE-DTAC ส่งทีมดูแลเครือข่ายสื่อสาร รับมือ "พายุไต้ฝุ่นโนรู" ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ายมือถือ 3 ค่าย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เข้าดูแลเครือข่ายสื่อสารทั้งมือถือและเน็ตบ้าน จากกรณีที่ “พายุไต้ฝุ่นโนรู” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย และได้เริ่มส่งผลกระทบในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ไปจนถึงภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ พร้อมกับมีลมแรง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น
ล่าสุดทาง เอไอเอส พร้อมดูแลเครือข่ายสื่อสารทั้งมือถือและเน็ตบ้านอย่างเต็มที่ โดยมีการเปิด War room เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมีการเตรียมการล่วงหน้า ประกอบด้วย
1.ส่งรถสถานีฐานเคลื่อนที่ และกระจายทีมวิศวกร Stand by ในพื้นที่เสี่ยง หากต้องมีการแก้ปัญหาฉุกเฉิน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์วัดระดับน้ำผ่าน IoT เพื่อให้สามารถเข้าแก้ไขได้อย่างตรงจุด
2.เตรียมเครื่องปั่นไฟ และ น้ำมัน ลงพื้นที่สถานีฐานในจุดเสี่ยง เพื่อให้พร้อมในการดูแลสัญญาณในพื้นที่หลักอย่างทันท่วงที
พร้อมประสานงานกับ ปภ.พื้นที่และส่วนราชการในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมความพร้อมเครือข่ายล่วงหน้า ในบริเวณพื้นที่ศูนย์อพยพ ที่แต่ละจังหวัดจัดไว้ในกรณีจำเป็น รวมไปถึงการเตรียมสนับสนุนน้ำดื่ม และสาธารณูปโภคที่จำเป็นในแต่ละพื้นที่ โดยทุกหน่วยงานในเอไอเอส ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่ออยู่เคียงข้าง ให้ประชาชนสามารถใช้บริการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องอย่างดีที่สุด
ส่วน TRUE เตรียมความพร้อมรับมือด้านการสื่อสารอย่างเต็มพิกัด จัดส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว หรือ COW และทีมวิศวกรกระจายลงทุกพื้นที่เสี่ยง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุโนรูทุกจังหวัดทั่วประเทศ และได้ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังเครือข่ายสื่อสารทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าพายุจะสงบ
พร้อมส่งทีมเข้าตรวจสอบเสาสัญญาณ วางมาตรการป้องกันสถานีชุมสายโดยวางกระสอบทรายในชุมสายที่เคยเกิดน้ำท่วม เตรียมระบบไฟฟ้า น้ำมันสำรองไว้เต็มที่ 100% ให้เพียงพอต่อสถานีฐานสำหรับใช้กรณีเกิดไฟฟ้าดับได้อย่างต่อเนื่องทันท่วงที เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารแก่ลูกค้าให้สามารถใช้บริการติดต่อสื่อสารกันได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด ทรูพร้อมเคียงคู่คนไทย ทุกที่ทุกเวลา ให้หลุดพ้นทั้งสถานการณ์ทั้งทุกข์และสุขไปด้วยกัน
ด้าน DTAC ส่งทีมงานเน็ตเวิร์กลงพื้นที่น้ำท่วมอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก เพื่อปฏิบัติการตามแผนให้บริการสื่อสารกรณีเกิดภัยพิบัติจากพายุที่เข้าไทย และคาดว่าจะส่งผลกระทบในพื้นที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือ
อีกทั้งยังเตรียมพร้อมรถโมบายล์เคลื่อนที่ เครื่องปั่นไฟฟ้าฉุกเฉิน และเตรียมน้ำมันสำรองไว้สำหรับกรณีที่มีการตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย เตรียมพาหนะรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่สถานีฐานเพื่อดูแลและซ่อมแซมได้ทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ DTAC ยังได้ร่วมมือกับกรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สำหรับ “การส่งข้อมูลข่าวสารแจ้งเตือนภัยธรรมชาติผ่านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่” โดยดีแทคได้ส่งข้อความเตือนภัยเรื่องน้ำท่วมให้กับลูกค้าดีแทคใน 14 จังหวัดเสี่ยงสูง และประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชน จำนวนกว่า 2 ล้านข้อความ จากความร่วมมือที่ได้รับชุดข้อมูลจังหวัดเสี่ยงภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่ประเมินถึงพื้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุน้ำท่วมเพื่อป้องกันภัยล่วงหน้า อาทิ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น ปราจีนบุรี และนครนายก
โดยทีมงานเน็ตเวิร์กได้ลงประจำจุดในสถานีฐานต่างๆ ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ และพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในขอบเขตที่ต้องเฝ้าระวังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่น้ำป่าไหลหลาก และพื้นที่น้ำท่วมขังในระยะสั้น ซึ่งทีมงานได้เข้าปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนนำเครื่องปั่นไฟลงเรือท้องแบนเข้าประจำสถานีฐานตามแผนฉุกเฉิน เพื่อให้ลูกค้าดีแทคได้ใช้งานได้ต่อเนื่องกรณีไฟฟ้าในพื้นที่ดับ
นอกจากนี้ DTAC จะประสานงานและร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อไป เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และพร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ อีกด้วย