พาราสาวะถี

ถามว่าตกยุคหรือไม่ หลังการกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพียง 1 วันของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็กลายเป็นไวรัลในเชิงค่อนขอดต่อคำแนะนำผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ หากมีปัญหาในการสื่อสาร แนะนำประชาชนใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการรับฟังการแจ้งเตือนจากทางราชการ โดยอ้างว่าเคยใช้ได้ผลมาแล้วเมื่อปี 2554 กรณีที่เกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่น้ำท่วม ปัญหาสำคัญคือ ผ่านมากว่า 10 ปี ประชาชนส่วนใหญ่ยังติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางวิทยุ โดยเฉพาะทรานซิสเตอร์เหมือนเดิมหรือไม่

นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองเห็นว่าความเห็นของคนเป็นผู้นำประเทศบางเรื่องคิดได้แต่ไม่จำเป็นต้องสื่อสารให้สาธารณะได้รับรู้ เพราะการที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ แยกแยะ โดยเฉพาะกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านกันอย่างรวดเร็ว มันจะทำให้ตกเป็นขี้ปาก และถูกมองว่าไร้วิสัยทัศน์ไปเสียฉิบ แม้จะมีเจตนาดี ที่น่าเห็นใจคือบรรดาลิ่วล้อสอพลอ พวกรับจ้างทำไอโอทั้งหลาย นายว่ามาอย่างไรแม้มันจะสวนกระแสสังคมก็ต้องกระเตงกันและชี้นำให้เห็นว่าเรื่องนี้ดีจริง

การกลับเข้ามาทำหน้าที่นายกฯ หนนี้ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ต้องยอมรับว่าเต็มไปด้วยเงื่อนไขสารพัด อย่างน้อยเงื่อนไขส่วนตัวว่าด้วยปมความเป็นนายกฯ ได้ถึงเมษายน 2568 ก็ทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าเจ้าตัวแทบจะหมดลุ้นในการที่จะขอกลับมาคั่วเก้าอี้ผู้นำประเทศอีกกระทอก เนื่องจากบรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ คงไม่ยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับการจะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ที่จะอยู่ทำหน้าที่ได้ไม่ถึง 2 ปีหลังการเลือกตั้ง ประกอบกับความนิยมที่ตกต่ำ การหาทางลงที่สง่างามจึงเป็นสิ่งที่ต้องคิดกันให้ตก

ขณะที่เรื่องร้อนซึ่งรออยู่เบื้องหน้ากับการกลับมารอบนี้ คือ การปรับ ครม.โดยที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.บอกไว้ตั้งแต่แรก ปมนี้ต้องให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นคนตัดสินใจ แม้จะมีโจทย์หลักอยู่ที่การปรับ 1 ตำแหน่งแน่ ๆ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแทนที่ นิพนธ์ บุญญามณี ที่ไขก๊อกจากรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่เดินไปสู่เป้าหมายเลือกตั้งแบบนี้ ภูมิใจไทยก็จำเป็นที่จะต้องให้ กนกวรรณ วิลาวัลย์ แสดงสปิริตลาออกจากรัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการเช่นเดียวกัน

มิเช่นนั้น จะเสียโอกาสในการที่จะมีโควตารัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ต่อการทำกิจกรรมทางการเมือง และต้องไม่ลืมว่า หากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตอบรับที่จะปรับ 2 เก้าอี้ให้พรรคร่วมรัฐบาล พรรคสืบทอดอำนาจที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ก็จะต้องมีการทวงคืนโควตาเพื่อจัดสรรให้คนในสายของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ได้มีอำนาจเพื่อหวังผลต่อการเลือกตั้งเช่นกัน

อย่างที่รู้กันว่าน้องเล็กไม่ยอมที่จะปรับ ครม.เพราะไม่ต้องการที่จะจัดสรรเก้าอี้ 2 ตำแหน่งที่อยู่ในมือของพี่ใหญ่ ต้องไม่ลืมด้วยเช่นกันว่า ส.ส.สมุทรปราการของพรรคสืบทอดอำนาจที่ลงมติโหวตสวนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหนที่ผ่านมา ก็เรียกร้องที่จะให้มีการจัดสรรตำแหน่ง มท.1 ให้กับพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เพื่อบารมีในการเลือกตั้ง กลายเป็นแรงกระเพื่อมที่กดดันผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจซึ่งไม่ชอบให้ใครมาข่มขู่ แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองมันจึงไม่มีทางเลือกอื่น

นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่า การกลับมาของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเที่ยวนี้ จึงน่าจะอยู่ต่อไปถึงแค่เสร็จสิ้นการประชุมเอเปคในเดือนพฤศจิกายนนี้ แล้วยุบสภาเพื่อให้จัดเลือกตั้งกันใหม่ ไม่ต้องมาทนแรงบีบให้ปรับ ครม.โดยที่ตัวเองไม่เต็มใจ ปัจจัยทางการเมืองที่จะเอื้อให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกลับมานั่งในเก้าอี้นายกฯ หลังเลือกตั้งครั้งหน้านั้น มองรอบด้านแล้วมีเพียงอย่างเดียวคือเสียงของ ส.ว. 250 เสียง ส่วนแรงหนุนจากพรรคการเมืองนั้นไม่หนักแน่น เหนียวหนึบเหมือนก่อนเลือกตั้งปี 2562

ยิ่งได้เห็นบรรดา ส.ส.และแกนนำพรรคภูมิใจไทยที่นำโดย อนุทิน ชาญวีรกูล ตบเท้าเข้าอวยพรวันเกิด เนวิน ชิดชอบ กุนซือคนสำคัญของพรรคแล้ว บอกได้คำเดียวว่า เลือกตั้งเที่ยวหน้าที่ประกาศขอเป็นพรรคแกนหลักนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และคงไม่ต้องมารอว่าจะต้องนำเสียง ส.ส.ที่ได้ไปหนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ การประกาศว่าเสี่ยหนูจะนำพาพรรคได้ ส.ส.120 ที่นั่งของเสี่ยห้อยดูห่างไกลจากความจริงมาก แต่ถ้าทุกอย่างมาตามนัด การจะเป็นพรรคอันดับสองมีพลังในการต่อรองก็ไม่ไกลเกินจริง

ยิ่งพอได้เห็น ส.ส.ต่างพรรคที่นับจำนวนแล้วเกือบ 30 คนซึ่งไปร่วมงานด้วยนั้น ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ปลาที่ตกในบ่อเพื่อนล้วนแต่เป็นประเภทราคาดี หวังผลได้ แต่หลายจังหวัดหากสโลแกนแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยปลุกขึ้น ก็จะมี ส.ส.สอบตกจำนวนไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองเมื่อประเมินความเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคแล้ว น่าจะถึงเวลาที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดแล้วว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้

ส่วนในพรรคสืบทอดอำนาจ ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าการจะชูแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว คือ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้นเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ยังไงพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็จะต้องมีชื่อประกบด้วย หรืออาจจะต้องจำใจตัดชื่อน้องเล็กทิ้ง เนื่องจากทีมกุนซือของพี่ใหญ่ได้ประเมินการทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ที่ผ่านมาแล้ว พบว่าสอบผ่าน กระแสตอบรับของประชาชนดีกว่าที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจทำหน้าที่ แม้จะไม่ใช่ตัวเลือกลำดับต้น ๆ แต่ก็จะสามารถการันตีว่าจะมีคะแนนเสียงเกาะขบวนแห่งอำนาจแน่นอน

ภารกิจหนักในการเลือกตั้งครั้งหน้า กลายเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่พบว่าพรรคในระนาบเดียวกัน มีการเตรียมความพร้อมและชูจุดขายที่ชัดเจน แต่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยทีมบริหารพรรค ยังคงยึดติดกับการทวงคืนความยิ่งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้กลับคืน และหวังลึก ๆ ว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส.ในกทม.คืนมาจำนวนหนึ่งเช่นกัน ทว่าเมื่อมองไปยังตัวเลือกยังไม่โดนใจคนกรุงฯ เท่าไหร่ นอกจาก “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ที่เติมเข้ามา แต่ก็จะไปลงใน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ส่วนภูมิใจไทยที่ไปเปิดตัวในงานวันเกิดเนวิน คือ ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ จากเพื่อไทย ก็ถือเป็นตัวความหวัง แค่เริ่มต้นก็เห็นแล้วว่าสนามเมืองหลวงเดือดแน่นอน