สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,926.94 จุด ร่วงลง 346.93 จุด หรือ -1.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,744.52 จุด ลดลง 38.76 จุด หรือ -1.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,073.31 จุด ลดลง 75.33 จุด หรือ -0.68%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในยูโรโซน และการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลค้าปลีกที่อ่อนแอได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 396.35 จุด ลดลง 2.56 จุด หรือ -0.64%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,936.42 จุด ลดลง 49.04 จุด หรือ -0.82%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,470.78 จุด ลดลง 46.40 จุด หรือ -0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,997.27 จุด ลดลง 55.35 จุด หรือ -0.78%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) โดยหุ้นเชลล์ถ่วงตลาดลงหลังเปิดเผยว่า ผลกำไรไตรมาส 3 จะถูกกดดัน เนื่องจากมีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,997.27 จุด ลดลง 55.35 จุด หรือ -0.78%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 88.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2565
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 94.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,720.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.6 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 20.66 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 921.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,275.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมเดือนพ.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 1.07% แตะที่ระดับ 112.2590
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 145.05 เยน จากระดับ 144.47 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9905 ฟรังก์ จากระดับ 0.9825 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3751 ดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9798 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9895 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1151 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1344 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6408 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6507 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวานนี้ (6 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ