PTT รวบยอดโลจิสติกส์
ในช่วง 4-5 ปีมานี้ จะเห็นว่า PTT ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทย เปิดเกมรุกหนักเพื่อสลัดภาพจำเดิมๆ แล้วสร้างภาพจดจำใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม
ในช่วง 4-5 ปีมานี้ จะเห็นว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทย เปิดเกมรุกหนักเพื่อสลัดภาพจำเดิม ๆ แล้วสร้างภาพจดจำใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ที่เป็นมากกว่าบริษัทด้านพลังงาน ด้วยการแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจดั้งเดิม ไปสู่ New S-Curve มุ่งสู่ธุรกิจนอนออยล์มากขึ้น…
ที่เห็นได้ชัดและสร้างความฮือฮามาแล้ว ก็กรณีการปั้นแบรนด์ร้านคาเฟ่ อเมซอน จนประสบความสำเร็จ มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศนั่นแหละ…
ตามมาด้วยการจับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ประกอบกับเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เลยเป็นที่มาของการรุกสู่ธุรกิจยาและอุปกรณ์การแพทย์ ตามกลยุทธ์ New S-Curve : Life Science ขณะเดียวกันด้วยเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวีที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง ซึ่ง PTT ก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมแจมในตลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบตเตอรี่และรถยนต์อีวี…
แต่นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ ยังมีอีกเยอะ…ซึ่งทำให้ภาพจำของ PTT ค่อย ๆ เปลี๊ยนไป๋..!!
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ PTT นั้น เตรียมรุกสู่ธุรกิจโลจิสติกส์ ผ่านบริษัทลูกที่ชื่อว่า บริษัท สยาม แมนเนจเมนท์ โฮลดิ้ง จำกัด (SMH) ด้วยการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) มีทุนจดทะเบียน 230 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ชัดเจน เพื่อประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศไทย รวมถึงระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบก และทางอากาศ การบริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็น รวมถึงการบริหารและให้เช่าทรัพย์สินสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์…
อุ๊ต๊ะ…การขยับของ PTT ชักน่าสนใจแล้วสิ…คงมีแรงกระเพื่อมไปถึงอีกหลาย ๆ บริษัทเลยนะเนี่ย
เนื่องจากเดิมกลุ่ม PTT จะใช้วิธี Outsource โลจิสติกส์ทั้งหมด อย่างถ้าเป็นการขนส่งทางทะเล จะผูกอยู่กับบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM และบริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL ของ “กลุ่มนทลิน” แต่ถ้าเป็นขนส่งทางบก จะผูกกับบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ทั้งการขนส่งก๊าชธรรมชาติ น้ำมัน ปิโตรเคมี ฯลฯ
แต่ด้วยองคาพยพของ PTT ที่พร้อมมากขึ้น คงถึงเวลาแล้วสินะที่จะต้องทำเอง เพราะสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ PTT เป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานอยู่แล้ว ก็จะทำให้ค่าขนส่งถูกลง และเกิดความคุ้มค่าทางด้านอีโคโนมีออฟสเกล…ถือเป็นอีกหนึ่ง New S-Curve ของ PTT..!!
เท่าที่ดูจากวัตถุประสงค์แล้ว งานนี้ไม่ต่างจาก PTT กินรวบ (ยอด) โลจิสติกส์เลยนะเนี่ย..!?
โอเค…เบื้องต้นก็คงให้บริการแค่ภายในกลุ่มแหละ แต่สเต็ปถัดไปก็คงขยายไปรับบริการคนอื่นด้วย…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
เคสนี้คล้ายกับกรณีบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ที่พอถึงจุดหนึ่งก็หันไปรุกธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยการร่วมทุนกับยามาโตะ กรุ๊ป (YAMATO Group) หรือที่รู้จักกันในสัญลักษณ์ “แมวดำคาบลูก” ยักษ์ใหญ่ด้านขนส่งพัสดุรายใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ให้บริการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้ชื่อ SCG Express เพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง…
กลับมาที่ PTT การหันมารุกธุรกิจโลจิสติกส์ครั้งนี้…ก็น่าสนใจว่าบรรดาเหาฉลามอย่าง PRM, SEAOIL และ KIAT รวมถึงอีกหลายบริษัทที่ทำมาหากินอยู่กับกลุ่มปตท.จะทำอย่างไร..? เพราะบางเจ้าถึงขั้นฝากทั้งชีวิตไว้กับ PTT เลยนะ ก็ถือเป็นโจทย์ท้าทายที่ต้องหาแนวทางรับมือไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วล่ะ…
ขณะที่บทสรุปของเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การยืมจมูกคนอื่นหายใจ…อาจมีสักวันที่จะเสี่ยงขาดอากาศหายใจ ได้นะออเจ้า..!?
…อิ อิ อิ…