ฝรั่งลุย..กองสาด
ดูเหมือนมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยในทรรศนะของ “โมนิก้า” จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพวกฝรั่งกลับมาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ
ดูเหมือนมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยในทรรศนะของ “โมนิก้า” จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพวกฝรั่งกลับมาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุนต่อไป หลังเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และผู้คนก็เริ่มมีกำลังซื้อในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เดี๊ยนถึงมองการทะยานขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องวอรี่ เพราะโดยพื้นฐานที่มองโดยไม่ต้องวิเคราะห์อะไรให้มากความ ก็น่าจะวิ่งขึ้นไปถึง 1,700 จุดนะจะบอกให้
ถึงกระนั้นก็มีสิ่งพึงระวังอยู่เหมือนกัน เพราะกองทุนยังสวมบทจอมสาดอยู่ร่ำไป ซึ่งเห็นได้จากยอดขายเมื่อวันศุกร์ที่ปาเข้าไป 2.17 พันล้าน และเมื่อรวมตลอดทั้งเดือนก็ปาเข้าไป 1.61 หมื่นล้าน และเมื่อดูตั้งแต่ต้นปีก็มียอดขายอยู่ที่ 1.40 แสนล้าน “โมนิก้า” ถึงมีอาการแหยงตลอดเวลา เพราะพ่อทูนหัวยังรินหุ้นออกมาเป็นประจำ ทั้งที่ปัจจัยหลายอย่างก็ดูดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นดูทางลมให้ดีสักนิดหนึ่งเจ้าค่ะ
แม้การขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,606.07 จุด บวกไป 3.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.51 หมื่นล้านบาท อาจเป็นเหมือนใบเบิกทางสำหรับการขึ้นไปทดสอบ 1,620 จุด แต่สูงกว่านั้นก็ต้องดูเหมือนกันว่า โมเมนตัมของการเล่นมีความมั่นใจมากขนาดไหน? เพราะอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีผลกับการซื้อของฝรั่ง “โมนิก้า” ถึงชอบมองหุ้นหลายสไตล์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับแฟนคลับ เพราะการขยับตัวเที่ยวนี้แฝงด้วยนัยสำคัญน่ะซี
โดยเฉพาะในรายของ TQM เริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 37.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 183 ล้านบาท ซึ่งเป็นการฟื้นตัวอย่างจริงจังในรอบ 1 เดือน และเป็นการเทรดบน PE 25 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องลุยตามน้ำเพื่อเราจะได้เป็นไม้ต้น ๆ เพราะนี่เป็นหนึ่งในหุ้นที่ฝรั่งเคยชื่นชอบ จึงเชื่อว่า เที่ยวนี้น่าจะได้รับแรงหนุนจากฝรั่งแบบสุดซอยนะตัวเอง
ส่วนในรายของ CRC ก็เป็นหนึ่งในหุ้นเปิดเมืองที่โบรกฯ การันตีผลการดำเนินงานฟื้นตัวเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาหุ้นถึงเทคตัวขึ้นตลอดเวลา แต่เผอิญมีแรงขายทำกำไรดักหน้าไว้ตลอดเวลา จึงทำได้แค่ระดับ 42 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 823 ล้านบาท แต่ก็เป็นระดับราคาที่เรียกว่า “ออลไทม์ไฮ” และในทางเทคนิคก็ถือเป็นการบังคับให้หุ้นต้องขยับขึ้นอีก..หากขึ้นไม่ไหว ก็จะเป็นแค่การรีบาวด์ธรรมดา ๆ นะคะ
เหมือนกับในรายของ SABUY หลังจากประคองตัวในกรอบ 11-12 บาท มาระยะหนึ่ง พอได้โอกาสก็กระชากขึ้นไปถึง 12.50 บาท แต่สุดท้ายก็โดนกดลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 11.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 313 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าจับตาว่ารอบนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน? แถมอาการที่แสดงออกมาล่าสุดมันตีความได้ว่า ยังมีคนเก็บของไม่เสร็จ..จึงต้องกดหุ้นให้ต่ำไว้ก่อน ส่วนจะเป็นจริงเหมือนที่สันนิษฐานหรือไม่..วันนี้รู้กันจ้า!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น JKN ที่กลายสภาพเป็นนางงามตกเวทีก่อนเวลาอันควรเสีย ทั้งที่ราคาหุ้นในกระดานก็เฉิดฉายมาจากเรื่องเวที Miss Universe ซึ่งดันราคาหุ้นในกระดานวิ่งแรง 3 วัน และราคาหุ้นพุ่งขึ้น 50% แต่ล่าสุดกลับโดนสาดหนักจนรูดลงมากองอยู่ที่ 4.82 บาท ลบไป 0.78 บาท หรือลงไป 13.95% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.75 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการปิดเกมระยะสั้นเหมือนหุ้นหลายตัวที่เด้งรับข่าวดี ต่อจากนั้นจะรอดูผลงานจริงจะออกมาดีแค่ไหนนะจ๊ะ
สอดคล้องกับการประกาศข่าวใหญ่ของ PSG เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่า กำไรมาเยอะแค่ไหน? เพราะการได้เป็นตัวแทนขายไฟฟ้าประเทศลาวให้กับประเทศสิงคโปร์ มันคือโปรเจกต์ใหญ่ที่ทุกคนรู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นบันไดอีกขั้นที่จะทำให้กำไรในอนาคตโตขึ้นไปอีกแน่นอน และการที่หุ้นวิ่งกลับขึ้นมาปิดที่ 1.41 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 319 ล้านบาท ก็เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า มีลุ้นวิ่งกลับไปยอดเดิมที่บริเวณ 1.61 บาทนะตัวเอง
เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นโตขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องชายตามองไปที่หุ้น BBIK เพื่อย้ำให้แฟนคลับรู้ว่า ไตรมาส 3 โตแรง เพราะจะเป็นช่วงที่รับรู้งานก้อนใหญ่เข้ามาต่อเนื่อง และจะทำให้ในช่วง 2 ปีต่อจากนี้โตปีละ 70% เดี๊ยนถึงมองการย่อตัวลงมาปิดที่ 118.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.40% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 117 ล้านบาท น่าจะเป็นการถอยลงมาให้แฟนพันธุ์แท้เก็บของ เพราะไซเคิลของหุ้นเป็นลักษณะขึ้นแรง ต่อจากนั้นจะย่อตัวลงสักระยะ และจะแกว่งตัวออกด้านข้าง ก่อนจะพุ่งขึ้นไปทำ all time high นะจะบอกให้