พรีวิว 3 หุ้น “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มฯ” งบ Q3 กำไรแกร่ง ชู BBIK โต 138%
“บล.กสิกรไทย” ประเมินหุ้น BBIK-BE8-IIG สามารถทำกำไรไตรมาส 3/2565 รวมประมาณ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ชู BBIK โตสุด 138%
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทยอยเปิดเผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 ออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจบไตรมาสแล้วจะต้องส่งภายใน 45 วันหลังปิดงบ ส่งผลให้ทางโบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์ประเมินบริษัทสำคัญว่ารายได้และกำไรสุทธิเติบโตขึ้น หรือลดลง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า
สะท้อนจากข้อมูลที่ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” หยิบยกมานำเสนอจากผลสำรวจกลุ่ม “ที่ปรึกษาเทคโนโลยี” หรือ Digital Transformation ของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จํากัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2565 ว่าจะเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับหุ้นกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีทั้ง 3 บริษัท BBIK, BE8 และ IIG ภายใต้การวิเคราะห์จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ปรับประมาณการกำไรของกลุ่มปี 2565-2567 เพิ่มขึ้น 1-9% สะท้อนแบ็กล็อกที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2565 รวมถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก บริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส (X-10) ซึ่ง BE8 เข้าร่วมกิจการในเดือนกันยายน และคาดว่า BBIK และ BE8 จะรายงานกำไรสูงสุดทำสถิติใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2565
บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK โดยคาดว่าจะรายงานกำไรไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 138% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 136% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันปรับประมาณการกำไรปี 2565-2567 เพิ่มขึ้น 2-6% จากแบ็กล็อกที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 430 ล้านบาท พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 140.80 บาท จากเดิม 104.35 บาท โดยอิงตามค่า PER ที่ 45.25 เท่า
บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 โดยคาดว่าจะรายงานกำไรไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตทั้งไตรมาสก่อนหน้าและงวดเดียวกันของปีก่อน น่าจะมาจากกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก X-10 ประมาณ 4.5 ล้านบาท ด้วยทั้ง 2 บริษัทเริ่มมีการควบรวมกิจการในเดือนกันยายน แต่หากไม่รวมกับ X-10 ทางนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรปกติ BE8 ไตรมาส 3 ปี 2565 จะอยู่ที่ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-2567 เพิ่มขึ้น 5-17% เพื่อสะท้อนถึงการผนึกกำลัง และการประหยัดต่อขนาดของการเข้าซื้อกิจการ X-10 และบริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง และปรับราคาเป้าหมาย 69.08 บาท จากเดิม 56.88 บาท โดยอิงตามค่า PER ที่ 39.5 เท่า
บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG โดยคาดว่าจะรายงานกำไรไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 23 ล้านบาท ซึ่งจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้จะเติบโตแข็งแกร่ง แต่กลับมีแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของโครงการที่มีอัตรากำไรต่ำ
ขณะเดียวกันคาดว่า IIG จะบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จากค่าธรรมเนียมการเข้าซื้อกิจการของ บริษัท แลนซิ่ง โฮลดิ้ง ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 19 ล้านบาท โดยปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลดลง 1-3% สะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาดในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 ได้มีการปรับราคาเป้าหมายเป็น 52.75 บาท จากเดิม 49.35 บาท อิงค่า PER ที่ 29.6 เท่า
ผลดังกล่าวข้างต้นสะท้อนถึงการปรับประมาณกำไร และการปรับปีฐานการประเมินมูลค่าหุ้นจากกลางปี 2566 ไปเป็นสิ้นปี 2566 รวมถึงการคำนวนราคาเป้าหมายของทั้ง 3 บริษัท โดยอิงตามค่า PER ให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตในปี 2567 พร้อมกับมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งของ digital transformation โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธนาคาร ซึ่งต้องการบริการจากบุคคลภายนอก (outsource service) เนื่องจากทรัพยากรด้านบุคคลภายในไม่เพียงพอ จึงคาดว่ากลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีจะสามารถรักษาการเติบโตของรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า