“จุรินทร์” คาดเงินเฟ้อ ต.ค. ต่ำกว่า 6% หลังราคาสินค้าลงต่อเนื่อง

“กระทรวงพาณิชย์” คาดเงินเฟ้อ ต.ค. ชะลอตัวลง อยู่ในระดับไม่เกิน 6% หลังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมเริ่มปรับตัวลดลง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังขึ้นไปสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ร้อยละ 7.86 เดือนกันยายนลดลงเหลือร้อยละ 6.41 และในเดือนตุลาคมประเมินเบื้องต้นอัตราเงินเฟ้ออาจจะไม่ถึงร้อยละ 6 ซึ่งสะท้อนว่าสถานการณ์ราคาสินค้าในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลง ต่างกับหลายประเทศที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับเอกชนในการกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ห้างส่งค้าปลีกในจังหวัดนครราชสีมา พบว่า สินค้าในแต่ละหมวดมีการปรับราคาลดลงสอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัว เช่น หมูเนื้อแดง ในห้างแม็คโคร ราคากิโลกรัมละ 169 บาท บิ๊กซี 168 บาท โลตัส 170 บาท เฉลี่ยหมูเนื้อแดงราคาลดลงร้อยละ 12.07 จากราคาโครงสร้าง เนื้อไก่ เฉลี่ย ต่ำกว่าราคาโครงสร้างร้อยละ 3.75-8.01 ราคาผักสด เช่น ผักชี ลดลงจากช่วงน้ำท่วมร้อยละ 53 ผักกาดขาว ลดลงร้อยละ 32 คะน้า ลดลง ร้อยละ 14 ราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ลดลงจากราคาโครงสร้างร้อยละ 12.22 น้ำมันปาล์ม ราคาลดลงต่ำกว่าราคาโครงสร้าง ก่อนนี้จากขวดละ 70 บาท เวลานี้เหลือขวดละ 47-50 บาท โดยประมาณ

ขณะที่ราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิปรับขึ้น ราคาตันละ 15,500-16,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,500-14,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,200-9,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 10,500-10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 9,800-11,800 บาท ปาล์มน้ำมัน ราคา 6-7 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11-12 บาท/กก. มันสำปะหลัง 3 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถือว่าราคายังดีมาก และมีแนวโน้มดีขึ้นอีกเนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้หาตลาดเพิ่มเติม โดยจะ MOU ล็อตใหญ่กับประเทศฟิลิปปินส์ในวันพรุ่งนี้ มั่นใจจะทำให้ราคามันสำปะหลังสูงขึ้น

“ราคาพืชผลการเกษตรที่เป็นต้นทุนสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น พบว่า ราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิปรับขึ้น ราคาตันละ 15,500-16,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,500-14,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,200-9,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 10,500-10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 9,800-11,800 บาท โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ราคา 6-7 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11-12 บาท/กก. มันสำปะหลัง 3 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถือว่าราคายังดีมาก และมีแนวโน้มดีขึ้นอีกเพราะตนและกระทรวงพาณิชย์พยายามช่วยหาตลาดเพิ่มเติม มีแนวโน้มทำ MOU ล็อตใหญ่กับประเทศฟิลิปปินส์ในวันพรุ่งนี้ ยิ่งทำให้ราคามันสำปะหลังสูงขึ้น

ส่วนยางพารา ราคาปรับลดในช่วงนี้เพราะการผลิตรถยนต์ขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ กระทบต่อการใช้ยางและโควิดเริ่มคลี่คลายความต้องการใช้ถุงมือยางลดลง แต่อีกช่วงตนคิดว่ามีแนวโน้มดีขึ้น กระทรวงเกษตรฯและการยางแห่งประเทศไทยกำลังเข้าไปดู ส่วนยางก้อนถ้วยราคาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ 20 บาท/กก.โดยประมาณ” นายจุรินทร์ กล่าว

Back to top button