BAM ราคาจะทะลุ BREAKING OUT เมื่อใด

ในธุรกิจบริหารขยะทางการเงินที่คัดสรรจากกระบวนการ “กู้แบงก์” แบดแบงก์แล้ว จากขยะที่ต้องอาศัยความรู้จากประวัติหนี้เน่าติดตราประทับ NPL และ NPA


ในธุรกิจบริหารขยะทางการเงินที่คัดสรรจากกระบวนการ “กู้แบงก์ แบดแบงก์แล้ว จากขยะที่ต้องอาศัยความรู้จากประวัติหนี้เน่าติดตราประทับว่าเป็น NPL และ NPA ที่รอบคอบ และช่ำชองตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ย่อมทำกำไรง่ายกว่า ธุรกิจทวงหนี้เน่าอยู่ที่ ……จะทำกำไรจากขยะมากน้อยเท่าใดแบบเพลงเด็กหญิงปรางค์ ของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญนะแหละ ถ้าหากเลือกกองขยะผิดที่เจอแต่เปลือกลำไย หรือซองบุหรี่ ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ซวยไป แต่ถ้าบังเอิญเจอตุ๊กตา หรือแหวนทองเข้าให้ กำไรมหาศาล

ฐานะทางการเงินของกิจการวัดได้ง่าย ๆ จาก ฐานะทางการเงิน วัดจากเงินรับจากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) 2 ที่มีต้นทุนต่ำที่รับซื้อเข้ามาบริหารจากสถาบันการเงินอื่น ๆ   ทำให้ BAM กลายเป็นหุ้นกำจัดขยะทางการเงินที่มีอนาคตยาวไกล

การวิเคราะห์คุณภาพและผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อ จะช่วยให้เข้าใจถ่องแท้ว่า ความสามารถในการทวงหนี้ และบริการต้นทุนของหนี้เน่าจะทำได้ดีเพียงใดเมื่อเทียบกับร้านรับซื้อขยะเก่า ๆ ที่มีแฟรนไชส์มากมาย

นักวิเคราะห์พูดกันอย่างมากเมื่อสิ้นไตรมาสแรกผ่านไปว่า ผลการดำเนินงานของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่แสดง

แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดกลับย่ำแย่ลง ยิ่งกว่าสาละวันเตี้ยลง จนกระทั่งล่าสุดราคาต่ำเตี้ยเจอฐานที่ต่ำ 16.00 บาทใต้ ทั้ง ๆ ที่อัตรากำไรสุทธิกำลังย้อนกลับขึ้นมาสู่ภาวะปกติ ที่ระดับ 18% ในรอบหลาย ๆ ปี ส่งผลให้เป้าหมายที่บรรดานักวิเคราะห์หลายสำนัก เป็นราคาเป้าหมายใหม่ 25.00 บาท จากคาดกำไรสุทธิสิ้นปี 3.2 พันล้านบาทปีนี้  แต่ราคาที่ว่าเหมาะสม ยังไม่เคยเกิน 22.00 บาทเลย ……  มีคำถามส่งผลให้ตามมาว่า เกิดอะไรขึ้น

เหตุผลที่ช้า เอามาก ๆ เพราะบริษัทที่ซื้อหนี้ที่ถูกประเมินว่าหนี้เน่า “มักจะให้กำไรจากการขายของเก่า” ได้กำไรเสมอ อยู่ที่ว่าจะกำไรมากหรือน้อยเท่านั้นเอง โอกาสที่จะขาดทุนถือว่าลืมไปเลย……ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหน ๆ

ที่ผ่านมา กิจกรรมเชิงรุกทางธุรกิจช่วงยากลำบากนี้ คือการขายสินทรัพย์ NPA ออกจากมือ ดำเนินไปเร็วขึ้นเพื่อลดภาระตั้งสำรองของกิจการลง โดยเฉพาะการจำหน่ายทรัพย์ NPA ให้กับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ชิ้น ซึ่งเริ่มทยอยสรุปผลและรับรู้รายได้ตั้งแต่งวดไตรมาส 3/2565

ควบคู่กับการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมีกำไรขั้นต่ำ 766 ล้านบาท

ขณะที่การบริหารจัดการทรัพย์ NPL จะยังคงเน้นการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีความยืดหยุ่น ควบคู่กับการประมูลทรัพย์ผ่านกรมบังคับคดี–การประมูลทรัพย์ออนไลน์, และดำเนินกลยุทธ์ระยะสั้นเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามาปิดบัญชีอย่างต่อเนื่อง

การที่ผู้บริหารของ BAM ให้คำมั่นกับผู้ถือหุ้นว่าในสิ้นงวดปีนี้ และตลอดปีหน้า……

บริษัทจะยังคงดำเนินกลยุทธ์การตลาดกระตุ้นยอดขายทรัพย์ NPA ต่อเนื่องทั้งปี อาทิ 1.การจำหน่ายทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกับพันธมิตร 2.การคัดทรัพย์ NPA มาขออนุมัติคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อจำหน่ายในราคาพิเศษ ตามความเหมาะสม 3.เพิ่มการขายทรัพย์ในลักษณ์ “ผ่อนชำระ” เพื่อเพิ่มยอดจัดเก็บ  รวมถึง 4.ให้โปรโมชั่นพิเศษกับ “ลูกค้ารายย่อย” ซึ่งยังคงเข้ามาลงทะเบียนกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง…น่าจะชี้ชัดให้เห็นโอกาสของการทำกำไรในอนาคตของ บริษัทกำจัดขยะทางการเงิน

หลังจากการทดลองและทดสอบเพื่อ “ประเมินผลการดำเนินงานยังคงอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวได้ทั้งเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะบริษัทสามารถบริหารโมเดลทางธุรกิจ และช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และออนไซต์ได้อย่างลงตัว”…น่าจะสะท้อนขาขึ้นของธุรกิจนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากทดลองดำเนินการหลากหลายรูปแบบมาตลอดในลักษณะการซ้อมใหญ่มาแล้ว

จากนี้ไป จังหวะทางธุรกิจที่จะเกิดผลบวกจากระยะเวลาที่รัฐบาลดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น ดังนั้นบริษัทจึงมีเครื่องมือหลากหลายรูปแบบที่จะนำมาปรับใช้กระตุ้นยอดขาย และการเรียกเก็บเงินสดให้เป็นไปตามเป้าหมายในแต่ละช่วง

น่าจะทำให้ราคาหน้ากระดาน พ้นจากสภาพของ หุ้นที่ราคาต่ำเตื้ยยาวนานลงไป

พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร ยังออมมาก คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มเติบโต ทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2565 (QoQ)

ข่าวดีมากขึ้นนี้ ยังมีบริษัทมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น แล้วราคาหุ้นจะพ้นจากภาวะถดถอยของราคาลงผลกำไรเพื่อจ่ายปันผล น่าจะเหมาะ

ไม่ใช่ที่ราคาต่ำเตี้ยแถวบุ๊กแวลู อยู่อย่างสยบสมยอมเช่นราคาปัจจุบัน

Back to top button