SMT บวกแรง 8% ลุ้นงบ Q4 โตต่อ รับออเดอร์ทะลัก มั่นใจดันรายได้ปีนี้พุ่ง 3 พันล้าน
SMT บวกแรง 8% ลุ้นงบ Q4/65 โตต่อ รับออเดอร์ทะลัก มั่นใจดันรายได้ปีนี้พุ่ง 3 พันล้าน เป้าหมาย 6.50 บาท ส่วนปีหน้าวางเป้ายอดขาย 4 พันล้านบาท โต 30% เล็งเพิ่มสินค้าใหม่ ขยายตลาดในยุโรปและเอเชีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8 พ.ย.65) ราคาหุ้นบริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT ณ เวลา 15:08 น. อยู่ที่ระดับ 5.35 บาท บวก 0.39 บาท หรือ 7.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50.80 ล้านบาท
โดยนายวิรัตน์ ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 น่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ หลังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอตามคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ของลูกค้า จึงน่าจะทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ ไตรมาส 4/65 มีมูลค่างานในมือที่รอส่งมอบ (แบ็กล็อก) เกือบ 3,000 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/65 จนถึงปีหน้า ดังนั้นมั่นใจปีนี้จะมียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนประมาณ 2,200 ล้านบาท และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ประมาณ 20%
ทั้งนี้ ยอดขายในปีนี้จะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ IC/ADV Packaging ประมาณ 1,345 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 45%, กลุ่มผลิตภัณฑ์ BOX BUILD/PCBA ประมาณ 802 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 27% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ OPTICS ประมาณ 853 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 28% ของรายได้
สำหรับแผนธุรกิจในปี 66 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้กว่า 4,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% ขณะที่กำไรเติบโตต่อเนื่องตามยอดขาย และจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ไม่ต่ำกว่า 20% โดยคาดว่าสินค้าทุกกลุ่มจะเติบโตในระดับเดียวกันกับในปีนี้ ได้แก่ PCBA & BOX BUILD, OPTICS และ IC Packaging รวมทั้งมีโอกาสเพิ่มสินค้าใหม่จากความพร้อมของเครื่องจักรโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และมีศักยภาพจากการขยายตลาดในยุโรปและเอเชีย จะช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เนื่องจาก SMT สามารถเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ซึ่งมีขนาดใหญ่ได้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasry Stock) วงเงินไม่เกิน 240 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น โดยเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 26 ต.ค. 2565-25 เม.ย. 2566 เนื่องจากพิจารณาราคาหุ้นที่ผ่านมาปรับตัวลงต่ำเกินไป ขณะที่ผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น รวมถึงได้มีการยกเลิกการเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ เนื่องจากมีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทจะกำหนดแนวทางการลงทุนใหม่ที่มีความเหมาะสมต่อไป
สำหับผลประกอบการในไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 103.40 ล้านบาท เติบโต 83.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 56.49 ล้านบาท โดยมีรายได้กว่า 800 ล้านบาท นิวไฮในรอบ 3 ปี เติบโต 52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ BOX BUILD/PCBA เติบโต 160%, OPTICS เติบโต 29% และ IC Packaging เติบโต 27% จากปีก่อน
ทั้งนี้ กำไรในไตรมาส 3/65 นิวไฮ สะท้อนแผนธุรกิจและกลยุทธ์การหาลูกค้าที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์มากขึ้น และบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนคลี่คลายดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การผลิตและส่งมอบสินค้าทำได้ดีขึ้นสามารถส่งมอบงานลูกค้าได้ตามแผน และได้ลูกค้าใหม่จากสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพิ่มเติม
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น SMT ราคาเป้าหมายปี 2566 อยู่ที่ 6.50 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 (ต.ค.-ธ.ค. 65) กำไรจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/65 (ก.ค.-ก.ย. 65) ที่มีกำไรสุทธิ 103.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 809.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.11%
ทั้งนี้เนื่องจากคำสั่งซื้อที่สูงขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับสถานการณ์ด้านวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย และค่าเงินบาทอ่อนค่า ขณะที่กำไรปกติ 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 72% ของประมาณการทั้งปี
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/65 เหตุที่กำไรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/65 สวนทางฤดูกาลปกติที่กำไรมักแผ่วลงนั้น เป็นเพราะปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ครอบคลุมทั้งไตรมาสอยู่ที่ราว 900 ล้านบาท และจะเป็นรายได้ทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) ต่อเนื่อง