ม.หอการค้าไทย คาด GDP ปีนี้โตเกิน 3% รับอานิสงส์เม็ดเงินเข้าระบบ

ม.หอการค้าไทย เผยเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาด GDP ปีนี้โตเกิน 3% รับอานิสงส์เม็ดเงินเข้าระบบ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ประเมินภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ว่ามีแนวโน้มขยายตัวเกิน 3% จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ 2.8-3.1% หากรัฐบาลอัดฉีดงบประมาณลงสู่ระบบอีกรอบ โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมที่จะใช้งบประมาณในไตรมาส 4 อีก 25,000 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างถนนและสาธารณูปโภคต่างๆ ได้ทั้งหมด ประกอบกับที่ผ่านมาเม็ดเงินจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลงสู่ระบบแล้ว ทั้งกองทุนหมู่บ้านและการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

“ในไตรมาส 3 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินจีดีพีที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2.8% และรวมทั้ง 3 ไตรมาส อยู่ที่ 2.9% ดังนั้นในไตรมาส 4 เชื่อว่ามาตรการต่างๆ ของรัฐบาลน่าจะลงสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้จีดีพีในไตรมาส 4 โต 3.7% ได้ และจะทำให้ทั้งปีโต 3.1% แต่หากไตรมาส 4 โตแค่ 3.3% ทั้งปีจะโตได้ 3% แต่ภาพรวมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับเศรษฐกิจไทยที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทงปีนี้ คาดจะมีมูลค่าการใช้จ่าย 11,413 ล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมาในปี 49 โดยมีอัตรากาขยายตัวเพิ่มจากปีก่อน 2.5% เพราะราคาสินค้าที่แพงขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และประชาชนมองว่าเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วจึงพร้อมเดินทางท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการตามสถานที่จัดงาน

ส่วนที่มาของเงินในการใช้จ่ายช่วงวันลอยกระทงนั้นส่วนใหญ่ 74.1% มาจากเงินเดือนและรายได้ปกติ, 17.4% มากจากส่วนเงินออม ส่วนที่เหลืออีก 7.4% มาจากเงินจากรายได้พิเศษ/โบนัส ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ ที่ประชาชนจะนำเงินเดือนและรายได้ปกติมาใช้จ่ายมากขึ้น ต่างจากปีก่อนที่ผู้ตอบ 72% นำเงินเดือนและรายได้ปกติมาใช้ และอีก 23.4% นำเงินเงินออมมาใช้

โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทงจากกลุ่มตัวอย่าง 1,208 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย.

Back to top button