III แย้ม Q4 โตต่อ รับไฮซีซั่นขนส่ง ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 20%

III มองแนวโน้มไตรมาส 4/65 โตต่อเนื่อง รับช่วงไฮซีซั่น และดีมานด์ขนส่งเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายแผน Beyond Logistic เข้าสู่ผู้นำภูมิภาคเอเชียชั้นนำ ดันรายได้ปี 65 เติบโต 15-20%


นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 10 พ.ย.65 ว่า บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 97 ล้านบาท เป็นผลมารายได้รวม 744 ล้านบาท เติบโต 22.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 605.6 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศที่เติบโตโดดเด่น จากการเปิดประเทศภายหลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย ทำให้อุตสาหกรรมการบินเริ่มดำเนินเข้าสู่ภาวะปกติ และมีปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์ และสินค้าอันตรายก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการค้าร่วมในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 72.1 ล้านบาท โดยยังคงเป็นกลุ่มบริษัท เอเชีย เน็คเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) และ บริษัท DG Packaging Pte., Ltd. ที่สร้างผลตอบแทนให้เป็นอย่างดี รวมถึงบริษัท เอ็กคู่ เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) ของกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลที่สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไร ประกอบกับ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) ซึ่งบริษัทได้ลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด สามารถทำกําไรได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และมีแนวโน้มการทำกําไรที่สูงขึ้นในอนาคต

ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายธุรกิจ และมีค่าใช้จ่ายลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า บริษัทได้มีการตั้งสํารองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 16.3 ล้านบาท จากกรณีที่ลูกหนี้สายการบินรายหนึ่งอยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

ขณะที่งวด 9 เดือนปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 260 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ในกลุ่มบริหารจัดการโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการให้บริการทั้งการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางทะเล รวมถึงกลุ่มธุรกจิขนส่งสินค้าทางอากาศ

สำหรับแผนยุทธศาสตร์บริษัทเดินหน้าขยาย 4 แผนยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะ Logistic&Beyound เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขนส่งโลจิสติกส์ผู้นำภูมิภาคเอเชีย ซึ่งให้สอดคล้องกับลูกค้า และแผนอนาคตในวันข้างหน้าจะทำให้มากกว่าเดิม โดยบริษัทจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ อาจจะเป็นบริษัทในระดับภูมิภาค โดยจะเป็นผู้นำขนส่งโลจิสติกส์ภูมิภาคเอเชียชั้นนำ

Beyound Boundary บริษัทจะนำบริษัทย่อย ANI เป็นธุรกิจแรกที่เชี่ยวชาญด้านสายการบินหรือ GSA โดยมีเครือข่ายร่วมกัน 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้เป็นบริษัทภูมิภาคเอเชียสมบูรณ์แบบ

Beyound Tradtional Logistic Service บริษัทจะทำเกี่ยวกับกราวด์ แฮนลิ้ง ในธุรกิจที่เกี่ยวกับท่าอากาศยาน และตัวขนส่งทางรางก็จะมีตัวที่พัฒนาขึ้นมาใหม่

Beyound Tradtional Platform ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ E-Commerce E-Logistic platfrom ที่บริษัทลงทุนกับบริษัทอื่นๆเข้ามา

Beyound Existing Expertise เป็นธุรกิจเรื่องของโลจิสติกส์โซ่เย็นสำหรับอาหารและยารักษาโรค

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย ANI ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาถือว่าทำผลประกอบการเกินเป้าหมาย โดยมองภาพรวมจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาค และมีแผนจะนำ ANI  เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพยฺ์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งในช่วงเดือนเมษายนปี 2566

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจ Chemical เป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) มากที่สุด โดยเป็นธุรกิจตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน ที่สามารถทำกำไรเฉพาะกิจได้ดี จะเห็นว่ากำไรของกลุ่มธุรกิจนี้มีกำไรเติบโตมาก อีกทั้งผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ก็มีกำไรออกมาดีมาก

ทั้งนี้บริษัทมองทิศทางไตรมาส 4/2565 ยังคงเติบโตกว่า 30% จากแนวโน้มดีมานด์ขนส่งเพิ่มมากขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 15-20% นอกจากนั้นยังมีแผน M&A เพิ่มเติม

Back to top button